CEO INSIGHT

‘เจน 2’ กับเป้าหมาย ‘ลลิล4.0’ ปรับองค์กรยุคดิจิทัล

ก้าวสู่ผู้พัฒนาโครการอสังหาริมทรัพย์มานานถึง 30 ปี นำทัพโดย ไชยยันต์ ชาครกุล ประธานกรรมการบริหารบริษัท ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ LALIN จนถึงวันนี้ ถึงยุคที่เจนเนอเรชั่นที่ 2 อย่าง ชูรัชฏ์ ชาครกุล เข้ามาช่วยธุรกิจของครอบครัวแล้วประมาณ 10 ปี ทำให้เขาสั่งสมประสบการณ์การบริหารงานจากรุ่นพ่อ และสานต่อธุรกิจได้เป็นอย่างดี

50077

ภายใต้การทำงานร่วมกันระหว่างเจน 1 และ เจน2 รวมทั้งได้มืออาชีพเข้ามาร่วมบริหาร ภายใต้แนวคิด “บ้านที่ปลูกบนความตั้งใจที่ดี” ส่งผลให้ปีนี้ ยอดขายของ ลลิลฯ คาดว่าจะทะยานแตะ 5,300 ล้านบาท โดยในครึ่งแรกปี 2562 ลลิลฯ ทำยอดขายเกินครึ่งของเป้าหมายปีนี้ไปแล้ว โดยอยู่ที่ 3,100 ล้านบาท จึงเชื่อว่าโค้งครึ่งปีหลังจะทำให้เป้าหมายที่ตั้งไว้ทะลุเป้าแน่นอน

ก้าวที่น่าจับตามอง ภายใต้การบริหารของเจน2 คือ การประกาศวิสัยทัศน์ “ลลิล 4.0” เมื่อต้นปี 2562 ที่ผ่านมา ซึ่งผู้บริหารลลิลฯ เชื่อมั่นว่า จะทำให้ลลิลฯ เติบโตได้อย่างแข็งแกร่งต่อไป

นายชูรัชฏ์ ชาครกุล กรรมการรองผู้จัดการใหญ่ บริษัท ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ LALIN เปิดเผยว่า วิสัยทัศน์ “ลลิล 4.0” เริ่มจากการ Reprocess หรือปรับกระบวนการทำงานภายในองค์กร ในแง่ของการทำให้กระบวนการทำงานมีความคล่องตัว กระฉับกระเฉง

นอกจากนี้ ยังปรับกระบวนการทำการตลาดให้สามารถตอบโจทย์ลูกค้า และเข้าถึงลูกค้ามากยิ่งขึ้น ด้วยการใช้ดาต้ามาวิเคราะห์หาความต้องการเชิงลึก (Consumer Insight) ของลูกค้า เช่น การทำตลาดผ่านช่องทางออนไลน์ ที่ปัจจุบันใช้งบการตลาดผ่านช่องทางออนไลน์เพิ่มขึ้นเป็น 50% แล้วในปัจจุบัน

50078 1

“เป้าหมาย ลลิล 4.0 เราต้องเป็นองค์กรที่ทันสมัย ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ลูกค้ารุ่นใหม่ๆ พนักงานในองค์กรเราก็ต้องปรับตัว นำระบบไอทีมาใช้มากขึ้น เพื่อให้องค์กรเรามีความกระฉับกระเฉงและคล่องตัวในการบริหารงาน โดยเป็นการทำทั้งในองค์กรและนอกองค์กรด้วย”

ทั้งนี้ เพื่อให้สอดรับกับการเป็นองค์กรที่ทันสมัย ทั้งภาพลักษณ์และการทำงาน บริษัทจึงได้ลงทุนพัฒนาระบบไอทีรวมกว่า 10 ล้านบาท และจะมีการลงทุนเพื่อพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เพราะระบบไอที และการแข่งขันในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์มีการพัฒนาและเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา

ขณะที่ความท้าทายของผู้บริหาร ลลิลฯ เจน 2 ในปีนี้ อยู่ที่ปัจจัยภายนอก นั่นคือ สภาวะภาพรวมเศรษฐกิจทั้งเศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจในประเทศไทยที่ยังไม่ฟื้นตัวดีขึ้น รวมทั้งภาคส่งออกและการท่องเที่ยวที่สร้างจีดีพีให้ประเทศกลับอยู่ในภาวะลดลง ทำให้ยอมรับว่า ปีนี้เป็นปีที่ “เหนื่อย” แน่นอน สำหรับผู้ประกอบการ

64863

อย่างไรก็ตาม จากจุดแข็งของ ลลิลฯ ที่ความเป็นอยู่ ขายไลฟ์สไตล์ และความคุ้มค่าให้ลูกค้า โดยไม่เลือกแข่งทุกเซ็กเมนต์ แต่จะเลือก เพื่อโฟกัสให้ดีที่สุด ยกตัวอบ่างทำเลเพชรเกษม 81 ที่ผู้ประกอบการรายอื่นตั้งราคา 2.5 ล้าน แต่ลลิลฯ วางระดับราคาขายอยู่ที่ 2.1 ล้านต้นๆ นั่นเพราะ ในภาวะเศรษฐกิจตึงตัวแบบนี้ ราคาจะเป็นตัวตัดสินใจหลักของลูกค้า

สำหรับปีนี้ ลลิลฯ ยังเดินหน้าเปิดโครงการใหม่ 9 โครงการ รวมมูลค่าโครงการกว่า 6,000 ล้านบาทตามแผนงาน และเชื่อมั่นว่า กลยุทธ์ที่วางไว้ จะทำให้ทุกโครงการเดินหน้าและปิดโครงการได้ตามเป้าหมายแน่นอน

Avatar photo