ซีอีโอบริษัทชั้นนำของสหรัฐเกือบ 200 ราย ระบุ ผลประโยชน์ของผู้ถือหุ้น ไม่ได้เป็นเป้าหมายแรกสุดของการดำเนินงานอีกต่อไป แต่เป็นเรื่องของการพัฒนาสังคมให้ดีขึ้น
บิสซิเนส ราวด์เทเบิล กลุ่มธุรกิจที่จัดตั้งขึ้นตั้งแต่เมื่อปี 2540 และมี 181 บริษัทสหรัฐเป็นสมาชิกอยู่ รวมถึง บรรดาบริษัททรงอิทธิพลอย่าง เจพี มอร์แกน โบอิง แอปเปิ้ล และอเมซอน ออกแถลงการณ์วันนี้ (20 ส.ค.) ถึงการให้นิยามใหม่เกี่ยวกับเป้าหมายของการทำธุรกิจ โดยระบุว่า เป็นการดำเนินงานที่ตระหนักถึงสังคม ให้คุณค่าแก่ผู้บริโภค ลงทุนในพนักงาน ด้วยการจ้างงานอย่างหลากหลาย และจ่ายค่าชดเชยอย่างยุติธรรม ทำข้อตกลงกับซัพพลายเออร์ที่มีจริยธรรม ปกป้องสิ่งแวดล้อม ด้วยการดำเนินงานอย่างยั่งยืน และสนับสนุนชุมชนท้องถิ่น
นิยามใหม่ดังกล่าวตรงข้ามกับหลักการที่ดำเนินมาอย่างยาวนานในเรื่องที่ว่า เป้าหมายอันดับแรก และสูงสุดของบริษัท คือ ประโยชน์ของผู้ถือหุ้น และทำกำไรให้กับผู้ถือหุ้นได้มากที่สุด
“ความฝันของชาวอเมริกันยังคงอยู่ แต่กระจายออกไป บรรดานายจ้างรายใหญ่ กำลังลงทุนในพนักงานของพวกเขา และชุมชนต่างๆ เพราะพวกเขารู้ว่า นี่เป็นหนทางเดียวที่จะประสบความสำเร็จได้ในระยะยาว หลักการที่ทันสมัยเหล่านี้ สะท้อนให้เห็นถึงพันธะของชุมชนธุรกิจ ที่จะเดินหน้าผลักดันเศรษฐกิจสำหรับชาวอเมริกันทั้งหมด” นายเจมี ไดมอน ประธานกรรมการบริหาร และซีอีโอ เจพี มอร์แกน เชส แอนด์ โค และประธานบิสซิเนส ราวด์เทเบิล กล่าว
ขณะที่นายอเล็กซ์ กอร์สกี้ ประธานบอร์ด และซีอีโอ จอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน และประธานคณกรรมการบรรษัทภิบาลของกลุ่มบิสซิเนส ราวด์เทเบิล กล่าวว่า แถลงการณ์ใหม่ดังกล่าว สะท้อนให้เห็นถึงวิธิการที่บริษัทสามารถทำ และควรทำต่อการดำเนินงานในทุกวันนี้
“เป็นเป้าหมายที่ยืนยันถึงบทบาทที่จำเป็นที่ภาคธุรกิจสามารถทำได้ เพื่อพัฒนาสังคมของเรา”
แถลงการณ์ข้างต้นลงนามโดยซีอีโอ 181 คน รวมถึง นายเจฟฟ์ เบโซส จากอเมซอน นายทิม คุก ของแอปเปิ้ล นายไบรอัน มอยนิฮัน จากแบงก์ ออฟ อเมริกา นายเดนนิส เอ มุยเลนเบิร์ก ของโบอิง นางแมรี บาร์รา จากเจนเนอรัล มอเตอร์ส (จีเอ็ม) และนายแลร์รี ฟิงค์ จากแบล็คร็อค
