Business

มารู้จัก ‘สหกลอิควิปเมนท์’ หุ้นเหมือง ‘เสือนอนกิน’

ทั่วไปแล้วธุรกิจในกลุ่มรับเหมาก่อสร้างตึก อาคารพาณิชย์ บ้าน คอนโดมิเดียม หรือแม้แต่โครงสร้างพื้นฐานต่างๆ เช่น ถนน รถไฟฟ้า มักจะมีระยะเวลาโครงการอยู่ที่ราว 1 – 5 ปี ไม่เกินนี้  

อย่างไรก็ดี มีหุ้นรับเหมาก่อสร้างหนึ่งตัวในตลาดหลักทรัพย์ฯ ที่มีลักษณะธุรกิจไม่ค่อยจะเหมือนใคร นั่นก็คือ SQ หรือ บริษัท สหกลอิควิปเมนท์ จำกัด (มหาชน) เพราะบริษัทมีระยะเวลาโครงการสัญญาเฉลี่ยสูงถึง 10 ปีทีเดียว เรียกว่าเป็น “เสือนอนกิน” ในวงการรับเหมาก็ว่าได้

นั่นก็เพราะ SQ เป็นผู้รับเหมางานเหมืองแร่ครบวงจร ไล่มาตั้งแต่วางแผนงานเหมืองและขนส่ง ปฏิบัติงานเปิดหน้าเหมือง เป็นที่ปรึกษา ให้บริการเช่าเครื่องจักรขนาดใหญ่ งานซ่อมบำรุง รับเหมางานก่อสร้างและระบบสาธาณูปโภค เรียกว่าครอบคลุมงามเหมืองตั้งแต่ต้นน้ำยันปลายน้ำ

เหมือง11

ประกอบกับลักษณะงานเหมืองแร่เป็นงานระยะยาวและมีความเฉพาะทางพอสมควร ทำให้บริษัทมีรายได้ต่อเนื่องเมื่อเทียบกับงานรับเหมาประเภทอื่น ซึ่ง SQ มีทีมงานที่มีประสบการณ์ในธุรกิจเหมืองมากว่า 30 ปี ครองส่วนแบ่งการตลาดมากกว่า 50% 

ดังนั้น จุดแข็งของ SQ ก็คือการเป็นผู้ประกอบการรับเหมาเหมืองแร่ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยและภูมิภาค CLMV ที่มีความพร้อมทั้งทางด้านบุคลากร ความรู้ และความสามารถเฉพาะด้าน จนยากที่จะเลียนแบบโมเดลธุรกิจ 

“งานในมือแน่นกว่า 3 หมื่นล้าน” 

เมื่อมองมาที่ Backlog หรืองานในมือที่รอรับรู้รายได้ ปัจจุบัน SQ กำไว้แน่นถึง 34,000 ล้านบาท ประกอบด้วยโครงการเหมืองแม่เมาะ เฟส 7, โครงการเหมืองหงสา ประเทศลาว และโครงการเหมืองแม่เมาะ เฟส 8 ซึ่งเป็นโครงการที่จะทยอยรับรู้รายได้ต่อเนื่อง

นอกจากนี้ ล่าสุดบริษัทเพิ่งมีข่าวดีลงนาม MOU กับ บริษัท Golden Lake Co., Ltd เพื่อร่วมทุนจัดตั้งบริษัทใหม่ ภายใต้ชื่อ Mai khot coal company โดย SQ ถือหุ้นใหญ่ 70% และ GL ถือหุ้น 30% เพื่อรับสิทธิ์ทำเหมืองถ่านหิน “เมืองก๊ก” ( Mai Khot Coal Mine) ประเทศเมียนมา 

ความน่าสนใจของหมืองถ่านหิน “เมืองก๊ก” คือเป็นโครงการระยะยาว 28 ปี รับรู้รายได้ตลอดโครงการรวม 27,000 ล้านบาท แบ่งเป็นรายได้การจำหน่ายถ่านหิน (ภายใต้บริษัทร่วมทุน) มากกว่า 22,000 ล้านบาท และรายได้จากการรับงานทำเหมืองถ่านหิน จากโครงการนี้ในเฟสแรกประมาณ 5,000 ล้านบาท

เหมือง22

โครงการดังกล่าวจะเริ่มขายในช่วงกลางปี 2563 คาดว่าจะมียอดขายประมาณ 3 แสนตันต่อปี ซึ่งหากประเมินราคาขายถ่านหินปัจจุบันที่ตันละประมาณ 3,000 บาท คาดว่าจะทำอัตรากำไรสุทธิไม่ต่ำกว่า 10% ดังนั้นหลังจากมียอดขายในเหมืองดังกล่าวเข้ามา จะทำให้ปี 2563 รายได้รวมมีโอกาสเติบโตมากกว่า 20% จากปี 2562 

ผลประกอบการย้อนหลัง SQ

ปี 2559 รายได้รวม 2,911.50 ล้านบาท กำไรสุทธิ 322.71 ล้านบาท

ปี 2560 รายได้รวม 3,185.68 ล้านบาท กำไรสุทธิ 360.05 ล้านบาท

ปี 2561 รายได้รวม 3,624.10 ล้านบาท ขาดทุน 284.63 ล้านบาท

เหมือง55

แม้จะมีผลประกอบการเติบโตต่อเนื่องหลายปี อย่างไรก็ตาม ล่าสุดในปี 2561 บริษัทมีอาการสะดุดเล็กน้อย พลิกมาขาดทุนสุทธิอยู่ที่ 284 ล้านบาท เพราะเจอผลกระทบเหตุการณ์ดินถล่มโครงการเหมืองแม่เมาะ 8 ทำให้สูญรายได้ไปพอสมควร 

ขณะเดียวกัน ก็มีปัจจัยลบเรื่องที่บริษัทแพ้การประมูลโครงการเหมืองแม่เมาะ 9 ให้กับ ITD หรือ บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด อีกด้วย ถึงอย่างนั้นนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ก็เชื่อว่าปี 2561 มรสุมต่างๆ ของ SQ น่าจะผ่านพ้นไปแล้ว

สุดท้ายคงต้องติดตามกัน SQ จะเทิร์นอะราวด์กลับมาเป็นปกติ และสัญญาใหม่ในเมียนมาจะทำให้บริษัทกลับมาเป็นเสือนอนกินเหมือนที่ผ่านมาได้หรือไม่

ขอบคุณภาพ: www.sahakol.com

Avatar photo