ตลาดหลักทรัพย์เอเชีย ซื้อขายช่วงเช้าวันนี้ (19 ส.ค.) ปรับตัวสูงขึ้น ท่ามกลางความหวังว่า ธนาคารกลางทั่วโลกจะออกมาตรการอัดฉีดเศรษฐกิจมากขึ้น ทั้งการดำเนินนโยบายของชาติเศรษฐกิจขนาดใหญ่ อย่าง เยอรมนี และจีน ช่วยบรรเทาความกังวลของนักลงทุนในเรื่องที่ว่าเศรษฐกิจโลกจะซบเซาลงอย่างหนัก
ดัชนีนิกเคอิ ตลาดหลักทรัพย์โตเกียว ญี่ปุ่น เคลื่อนไหวล่าสุดขยับขึ้นมา 106.64 จุด หรือ 0.52% ที่ 20,525.45 จุด ดัชนีฮั่งเส็ง ของฮ่องกง ทะยานขึ้น 409.65 จุด หรือ 1.59% ที่ 26,143.87 จุด ดัชนีคอมโพสิตเซี่ยงไฮ้ ของจีน เพิ่มขึ้น 14.37 จุด หรือ 0.51% ที่ 2,838.20 จุด และดัชนีสเตรทไทมส์ สิงคโปร์ ขยับขึ้น 11.25 จุด หรือ 0.36% ที่ 3,126.28 จุด
ช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา ความกังวลเกี่ยวกับภาวะถดถอยทางเศรษฐกิจ จากการที่ผลตอบแทนพันธบัตรระยะสั้นของสหรัฐสูงกว่าระยะยาว สร้างความสั่นสะเทือนไปทั่วตลาดการเงินโลก แต่ขณะเดียวกัน ก็ทำให้เกิดกระแสคาดการณ์ว่า เจ้าหน้าที่กำหนดนโยบายของประเทศต่างๆ จะจัดหามาตรการเพื่ออัดฉีดเศรษฐกิจเพิ่มขึ้น รวมถึง จากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่เพิ่งลดดอกเบี้ยเป็นครั้งแรกในรอบ 11 ปีไปเมื่อเดือนที่แล้ว
ตลาดยังมีความหวังเพิ่มขึ้น หลังรัฐบาลเยอรมนีประกาศเมื่อปลายสัปดาห์ที่แล้วว่า จะยกเลิกการใช้งบประมาณแบบสมดุลไว้ชั่วคราว เพื่อรับภาระหนี้ใหม่ และประกาศมาตรการอัดฉีดต่างๆ จำนวนหนึ่ง เพื่อรับมือกับความเป็นไปได้ที่จะเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย
ยิ่งไปกว่านั้น ธนาคารกลางจีน ยังเปิดเผยแผนปฏิรูปอัตราดอกเบี้ย เพื่อช่วยให้บริษัทต่างๆ เสียดอกเบี้ยถูกลง และสนับสนุนเศรษฐกิจที่กำลังชะลอการเติบโต ในช่วงเวลาที่กำลังมีความขัดแย้งทางการค้ากับสหรัฐ การเคลื่อนไหวที่ถูกมองว่า จะนำไปสู่การปรับลดดอกเบี้ย
