Lifestyle

ไม่จริง! ‘คร.’ เตือนอย่าเชื่อข่าวปลอม ‘ไข้เลือดออก’ สายพันธุ์ใหม่

“อธิบดีคร.” เตือนข่าวปลอม “ไข้เลือดออก” สายพันธุ์ใหม่ ยันไข้เลือดออกในประเทศไทยเกิดจากเชื้อไวรัสเดงกี่ มีเพียง 4 สายพันธุ์

000DDC 01 1
นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย

นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค (คร.) กล่าวถึงกรณีมีการส่งต่อข้อมูลทางเฟซบุ๊กว่าขณะนี้กำลังเกิดการระบาดของไข้เลือดออกสายพันธุ์ใหม่ และมีปัญหาเชื้อดื้อยา ว่า ขอย้ำว่าเรื่องนี้ไม่เป็นความจริง ไม่มีไข้เลือดออกสายพันธุ์ใหม่แต่อย่างใด เพราะไข้เลือดออกที่เป็นในประเทศไทยเกิดจากเชื้อไวรัสเดงกี่ ซึ่งมีเพียง 4 สายพันธุ์ที่พบเป็นประจำทุกปี คือสายพันธุ์ที่ 1,2,3และสายพันธุ์ที่4 ซึ่งตามธรรมชาติของการป่วยไข้เลือดออกและมีอาการรุนแรงนั้นจะมีอยู่ 2 – 3 ปัจจัย คือ

1.ผู้ป่วย ซึ่งปีนี้พบมากในเด็กโตและวัยผู้ใหญ่ ซึ่งในวัยผู้ใหญ่มักจะมีโรคประจำตัวอยู่แล้วอาทิ อ้วน เบาหวาน ความดัน เป็นต้น ซึ่งหากเกิดการป่วยไข้เลือดออก จะทำให้การดูแลรักษายาก

2.การเข้ารับการรักษาช้า โดยเฉพาะผู้ป่วยที่ ไม่มีโรคประจําตัว ก็มักคิดว่าป่วยเป็นโรคธรรมดา เช่น ไข้หวัด จึงไม่ได้ใส่ใจที่มาพบแพทย์จะมาพบก็ต่อเมื่อเริ่มมีปัญหาในช่วงไข้ลด ตัวเย็น ช็อค

3.การซื้อยามารับประทานเองโดยเฉพาะยาในกลุ่ม nsaids

“มีบางรายที่เข้ารับการรักษาแต่ยังมีปัญหาในส่วนนี้ต้องเรียนว่า ขึ้นอยู่กับว่าเป็นการป่วยครั้งที่ 2 หรือไม่ รวมถึงการเจ็บป่วยในครั้งนั้น เกิดจากการติดเชื้อเดงกี่สายพันธุ์ที่ 2 หรือไม่ เพราะ 2ส่วนนี้จะมีความสัมพันธ์กับความรุนแรงของโรคมากกว่า โดยอาการรุนแรงได้แก่ 1.ไข้เริ่มลดลง ตัวเย็น กินอาหารไม่ได้ ซึมลงความดันตก ชีพจรเต้นเร็ว เข้าสู่ภาวะช็อค หรือ 2.แนววินิจฉัยว่าเป็นไข้เลือดออกแต่อาการผิดปกติจากเดิม เช่น ถ่ายดำมีจุดเลือดออก มีอาการทางสมองซึ่งในส่วนนี้จะพบได้น้อย ทั้งหมดนี้เป็นอาการรุนแรงที่เรียกว่าภาวะแทรกซ้อนจากโรคไข้เลือดออก ซึ่งระยะนี้แม้อยู่ในมือหมอก็ดูแลรักษายาก และยังอันตราย” อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าว

ส่วนกรณีมีการเผยแพร่ข้อความว่า ไข้เลือดออกดื้อยานั้นก็ไม่เป็นความจริง เนื่องจากไข้เลือดออกเกิดจากเชื้อไวรัส ยังไม่มียารักษาโรคเฉพาะ ส่วนใหญ่จึงให้การรักษาตามอาการ ประคับประคองไม่ให้อาการทรุดลง จนเกิดภาวะแทรกซ้อนอันตรายได้ อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันได้มีวัคซีนป้องกัน แต่ก็ให้เฉพาะราย

สำหรับสถานการณ์ไข้เลือดออกในปัจจุบันต้องเรียนว่าขณะนี้เข้าสู่ช่วงหน้าฝนอย่างเป็นทางการหลายพื้นที่มีฝนตก ทำให้พบจำนวนผู้ป่วยสูง แต่บางพื้นที่ฝนไม่ตกผู้ป่วยก็ลดลง อย่างเช่นพื้นที่อีสานตอนบน ในช่วง 2 – 3 สัปดาห์ที่ผ่านมาก็พบว่ามีอัตราผู้ป่วยลดลงอย่างมาก โดยค่าเฉลี่ยปัจจุบันพบผู้ป่วยอยู่ที่สัปดาห์ละประมาณ 4,000 ราย ถือว่าเป็นสถานการณ์ที่ไม่มากเมื่อเทียบกับช่วงพีคของไข้เลือดออก แต่ประเด็นสำคัญตอนนี้คืออัตราการเสียชีวิตมากกว่า ซึ่งตอนนี้มากกว่า 70 รายแล้ว และยังมีอีกหลายรายที่อยู่ระหว่างการสอบสวนโรค

ดังนั้นเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ต้องขอความร่วมมือจากหลายๆ ฝ่าย ในส่วนของผู้ป่วยเองหากมีอาการเจ็บป่วยในช่วงนี้ไม่ว่าจะมีโรคประจำตัวหรือไม่มีโรคประจำตัวก็ตามขอให้นึกถึงไข้เลือดออก ขอให้รีบไปพบแพทย์ ตนไม่แนะนำให้รอดูอาการจนอาการทรุด เพราะถึงแม้ไปพบแพทย์แล้วไม่ได้ป่วยเป็นไข้เลือดออกจริงแต่ก็จะได้รับการดูแลรักษาอาการป่วยที่เป็นอยู่ตามมาตรฐานทางการแพทย์

นอกจากนี้ยังต้องขอความร่วมมือไปยังสถานบริการด้วยเมื่อมีผู้ป่วยมาที่โรงพยาบาลก็ขอให้นึกถึงโรคไข้เลือดออกเป็นลำดับแรกๆ เช่นเดียวกันเพราะต้องย้ำว่าช่วงนี้ยังเป็นช่วงพีคของการระบาดของไข้เลือดออกหากผู้ป่วยมาพบแพทย์ในช่วงดึก ก็ขอให้คิดถึงโรคนี้และสังเกตอาการไอ โดยที่โรงพยาบาลไม่ควรปล่อยให้ผู้ป่วยกลับบ้านไปก่อน

 

Avatar photo