ยังไม่ถึง 2 เดือน กับการเข้ามาบริหารประเทศ “รัฐบาลลูกผสม” ของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ดูเหมือนมีอาการปีนเกลียวกันขึ้นมาทุกขณะ วันก่อนเห็นเจ้ากระทรวงอย่างกระทรวงคมนาคม เปรยๆขึ้นมาอยากจะปรับเปลี่ยนบอร์ดรัฐวิสาหกิจ เพื่อให้สามารถทำงานกันได้ ในบางรัฐวิสาหกิจ โดยเฉพาะรัฐวิสาหกิจและหน่วยงานที่ขาดทุนบักโกรก พูดไปยังไม่ทันอะไร ก็มีเสียงงึมงัมออกมาทันที ทำนองไม่เห็นด้วย ยกเหตุผลโน่นนี่นั่นมาอ้างสารพัด
อย่างกระทรวงคมนาคม จะต้องมีการปรับบอร์ดอยู่หลายรัฐวิสาหกิจ แต่กลับถูกมือดีกระโดดขวางซะอย่างนั้น จริงๆการจะเปลี่ยนบอร์ดแต่ละแห่ง มีความเชื่อว่าเหลือเกินว่าต้องการทำให้ดี ทำให้การบริหารงานไปข้างหน้าได้ โดยเฉพาะรัฐวิสาหกิจที่ขาดทุนหนักๆอยู่ แต่เจ้ากระทรวงกลับไม่สามารถจัดการได้ รัฐมนตรีบางคนไม่ได้ดูแลรับผิดชอบโดยตรง แต่กลับออกมาตีโพยตีพาย คงจะคิดว่ายังบริหารแบบรัฐบาลเก่าหรือยังไง
อันที่จริงการปรับเปลี่ยนบอร์ดหรือไม่อย่างไร ต้องให้อำนาจรัฐมนตรีผู้รับผิดชอบดำเนินการ หากปรับเปลี่ยนไปแล้วไม่ดี บริหารองค์กรไม่มีประสิทธิภาพ รัฐมนตรีก็ต้องรับผิดชอบ แต่เชื่อเหลือเกินหากบอร์ดคนไหน ยังมีความสามารถช่วยองค์กรได้ ก็สมควรอยู่ต่อไป แต่บอร์ดคนไหนสมควรปรับก็ต้องปรับออก หากยังปล่อยให้ “ไอ้โม่ง” หวงก้างอยู่อย่างนี้ แล้วรัฐมนตรีที่เข้ามาบริหารจะทำอย่างไร
ไม่แปลกใจที่รัฐมนตรีแต่ละยุคเมื่อเข้ามาบริหารหรือดูแลงานที่รับผิดชอบ เขาย่อมต้องเอาคนที่ไว้ใจและสามารถงานได้ เข้ามาร่วมบริหาร แต่หากปรับเปลี่ยนเพื่อเอาคนของตัวเองเข้ามา เพื่อหวังผลประโยชน์อย่างใดอย่างหนึ่ง แบบนี้ก็ไม่สมควรอย่างยิ่ง แต่ทุกอย่างควรให้รัฐมนตรีเจ้ากระทรวงดำเนินการไป
ยกตัวอย่างชัดๆอย่างบอร์ดการบินไทย วันนี้มีตำแหน่งว่างจากกรณีที่กรรมการ 3 ท่านลาออกไปก่อนหน้านี้ มาถึงวันนี้ยังไม่สามารถแต่งตั้งใครเข้าไปได้ และยิ่งล่าสุดที่ เอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ ประธานบอร์ดการบินไทย ได้แจ้งต่อผู้เข้าร่วมสัมมนาระดับผู้บริหารการบินไทย ในโครงการ “การบินไทยคุณธรรม” ตอนหนึ่งว่า “วันหลังเจอกันที่ไหน ก็ทักทายด้วยนะ ผมอยู่ที่นี่ด้วยระยะเวลาสั้นมาก เหตุเกิดเมื่อวันที่ 3 สิงหาคม 2562
สิ่งที่เกิดขึ้นเสมือน เอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ กำลังแจ้งการลาออกจากประธานบอร์ดการบินไทย ต่อที่ประชุมอย่างไม่เป็นทางการ เพราะยังไม่ได้แจ้งตลาดหลักทรัพย์ฯ
แต่ใครจะเชื่อหลังมีข่าวเล็ดลอดออกไป กระแสต่อต้านการเปลี่ยนบอร์ดรัฐวิสาหกิจเกิดขึ้นทันที โดยเฉพาะผู้มีอำนาจในรัฐบาล ไม่แน่ใจว่าเป็นผู้แต่งตั้งบอร์ดเข้ามาก่อนหน้านี้ด้วยหรือไม่ ออกมายกเหตุผลแบบไม่เห็นด้วยกับการเปลี่ยนบอร์ดที่ตัวเองตั้งขึ้นมา
หนักไปกว่านี้ มี “ไอ้โม่ง” อ้างเหตุผลที่ไม่สมควรอ้าง ห้ามเปลี่ยนบอร์ดการบินไทย ทำเอารัฐมนตรีควบคุมดูแลถึงกับผงะ อันที่จริงถ้าการบินไทยแตะต้องอะไรไม่ได้เลย “ไอ้โม่ง” น่าจะเอางานส่วนนี้ไปดูแลเสียเอง แบบว่าขึ้นตรงไปเลย รัฐมนตรีในกระทรวงคมนาคม จะได้ไม่ต้องหนักใจเมื่อ การบริหารงานของการบินไทยมีแต่ร่วมลงๆ แบบหาทางออกไม่เจอ รายได้กับรายจ่ายกำลังสวนทางกันเวลานี้
ยิ่งสภาพการบินไทยที่เป็นอยู่อย่างนี้ ถามว่าจะจัดการอย่างไร หรือทำได้แค่โครงการ“ลดค่าตอบแทนและเบี้ยประชุมบอร์ด ลดเงินเดือนค่าจ้าง10% ลดค่ายานพาหนะเหมาจ่าย10% สำหรับผู้บริหารตั้งแต่ระดับ 10 ขึ้นไปด้วยความสมัครใจ”อย่างที่ สุเมธ ดำรงชัยธรรม ดีดี การบินไทยออกมาป่าวประกาศอย่างนั้นหรือ
วันนี้แค่มีโครงการนี้ออกพนักงานก็ฮือฮากันซะแล้ว แบบว่า คิดเก่า ทำเก่า เพราะโครงการแบบนี้เคยมีมาแล้ว และไม่ได้ช่วยอะไรมากนัก มีคำถามตามมาทำนองแล้ว ดีดี ลดด้วยไหม? ลดเท่าไหร่ น่าจะประกาศออกมาด้วยเจ้าคะ
