ทีมชาติเบลเยียม มีโอกาสสดใสที่จะผ่านเข้ารอบน็อกเอาต์ฟุตบอลโลก 2018 ที่ประเทศรัสเซีย หลังเอาชนะ ตูนิเซีย 5-2 ในการเล่นรอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม จี นัดสอง เมื่อวันเสาร์ที่ 23 มิถุนายน ที่ผ่านมา ทำให้มี 6 คะแนนเต็มจากการเล่นสองนัดแรก
ในเกมนี้โรเมลู ลูกากู กองหน้า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดทำสถิติน่าสนใจหลายอย่างขึ้นมา
- ไม่มีนักเตะเบลเยียม คนไหนที่ยิงในฟุตบอลโลก และฟุตบอลยูโร ได้มากไปกว่า โรเมลู ลูกากู อีกแล้ว (ทำได้ 7 ประตู แซง แยน คูเลอม็องส์ ที่เคยทำไว้ 6 ประตู)
- ลูกากู เป็นนักเตะคนแรกที่ยิงได้ 2 ประตูขึ้นไปสองนัดติดในฟุตบอลโลก นับตั้งแต่ที่ ดีเอโก้ มาราโดน่า ตำนานทีมชาติอาร์เจนตินา ทำได้ในปี 1986 (เจอ อังกฤษ และ เบลเยียม)
- ลูกากู เป็นนักเตะเบลเยียมคนแรกที่ทำประตูในฟุตบอลโลกครั้งเดียวได้ถึง 4 ลูก
- จาก 2 เกมที่ผ่านมา ลูกากู มีโอกาสยิงแค่ 5 ครั้งเท่านั้น โดยตรงกรอบ 4 ครั้ง และเป็น 4 ประตู โดยไม่ต้องจับบอลก่อนยิงเลย
- ลูกากู ทำไปแล้ว 4 ประตูในฟุตบอลโลก 2018 ขึ้นนำเป็นดาวซัลโวร่วมกับ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ กองหน้าทีมชาติโปรตุเกส
- ลูกากู ยิงไป 7 ประตูในการเล่นให้ เบลเยียม 4 นัดหลังสุด
นอกจากนี้เบลเยียมยังสร้างสถิติอื่นๆอีกมากมาย
- เบลเยียม เป็นทีมแรกในฟุตบอลโลก ที่มีนักเตะ 2 คนยิงได้คนละ 2 ประตูขึ้นไปในเกมเดียว นับตั้งแต่ที่ เยอรมัน ชนะ บราซิล 7-1 เมื่อปี 2014 (โทนี่ โครส และ อันเดร เชือร์เล่)
- เบลเยียม ยิงได้ถึง 5 ประตูในเกมเดียวได้เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์การเล่นฟุตบอลโลกของพวกเขา
- เบลเยียม ไม่แพ้ในการเล่นรอบแบ่งกลุ่มฟุตบอลโลก 11 นัดล่าสุด (ชนะ 6 เสมอ 5)
- ประตูของเอแด็น อาซาร์ นาทีที่ 6 ถือเป็นประตูที่ เบลเยียม ทำได้เร็วสุดเป็นอันดับ 2 ในฟุตบอลโลก ต่อจาก ลีโอโพล อานูล ที่ยิงได้นาทีที่ 5 ในปี 1954
- อาซาร์ มีส่วนร่วมใน 23 ประตูที่ลงเล่น 21 นัดล่าสุดให้กับ เบลเยียม (ยิง 11 ประตู แอสซิสต์ 12 ลูก)
- ฟุตบอลโลก 2018 ยังไม่มีผลที่จบลงด้วย 0-0 เลย หลังเล่นไปแล้ว 27 นัด ส่งผลให้ทำลายสถิติปี 1954 ที่ทำเอาไว้ 26 นัดเรียบร้อย
- ฟุตบอลโลก 2018 มีจุดโทษไปแล้ว 13 ครั้ง (จาก 27 เกม) ส่งผลให้เท่ากับ ฟุตบอลโลก 2014 ทั้งทัวร์นาเมนต์ไปแล้ว (64 เกม)
