ตลาดหุ้นเอเชียซื้อขายช่วงเช้าวันนี้ (16 ส.ค.) ปรับตัวขึ้นเป็นส่วนใหญ่ ตามขาขึ้นของดาวโจนส์เมื่อคืนนี้ (15 ส.ค.) แรงหนุนจากรายงานยอดค้าปลีกที่แข็งแกร่งเกินคาดของสหรัฐ แต่ท่าทีที่ขัดแย้งกันในเรื่องสงครามการค้าระหว่างจีน กับสหรัฐ ยังทำให้ความกังวลเกาะติดตลาดอยู่
ดัชนีนิกเคอิ ของญี่ปุ่น เคลื่อนไหวล่าสุดปรับขึ้นมา 18.68 จุด หรือ 0.09% ที่ 20,424.33 จุด ดัชนีฮั่งเส็งของฮ่องกงเพิ่มขึ้น 166.65 จุด หรือ 0.65% ที่ 25,662.11 จุด ดัชนีคอมโพสิตเซี่ยงไฮ้ ขยับขึ้น 21.04 จุด หรือ 0.75% ที่ 2,836.84 จุด และดัชนีสเตรทไทมส์ สิงคโปร์ ลดลง 24.98 จุด หรือ 0.80% ที่ 3,101.11 จุด
ขณะที่ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 25,579.39 จุด เพิ่มขึ้น 99.97 จุด หรือ 0.39% ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 2,847.60 จุด เพิ่มขึ้น 7.00 จุด หรือ 0.25% และดัชนีแนสแด็ก ปิดที่ 7,766.62 จุด ลดลง 7.32 จุด หรือ 0.09%
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ กล่าวเมื่อวานนี้ แสดงความเชื่อมั่นว่า จีนต้องการทำข้อตกลงการค้ากับสหรัฐ และความขัดแย้งที่เกิดขึ้นจะอยู่อีกไม่นาน
อย่างไรก็ดี ก่อนหน้านั้นรัฐบาลปักกิ่ง ออกมาประกาศว่า จะดำเนินมาตรการตอบโต้ต่อการขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากจีนรอบล่าสุดของสหรัฐ แต่ยังเรียกร้องให้รัฐบาลวอชิงตันเจอกันครึ่งทาง เพื่อความเป็นไปได้ที่จะบรรลุข้อตกลงการค้า
นักลงทุนยังมุ่งให้ความสนใจกับตลาดพันธบัตร หลังจากที่ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ อายุ 30 ปี ร่วงลงแตะระดับสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 1.916% ในสัปดาห์นี้ ซึ่งเป็นการร่วงลงครั้งรุนแรงสุดนับแต่ช่วงกลางปี 2555
ทางด้านราคาน้ำมันดิบช่วงเช้าวันนี้ ที่ตลาดสิงคโปร์ ปรับตัวขึ้นมาเล็กน้อย หลังจากที่ร่วงลงมา 2 วันต่อเนื่อง โดยราคาซื้อขายล่วงหน้า น้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสอินเตอร์มีเดียท ขยับขึ้นมา 33 เซนต์ ที่ 54.80 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบเบรนท์ ปรับขึ้นมา 23 เซนต์ที่ 58.46 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ขาขึ้นของราคาน้ำมันเกิดขึ้นหลังจากที่การซื้อขายในตลาดไนเม็กซ์ของสหรัฐ เมื่อคืนนี้ ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสอินเตอร์มีเดียทกำหนดส่งมอบเดือนกันยายน ลดลง 76 เซนต์ หรือ 1.4% ปิดที่ 54.47 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล และราคาน้ำมันดิบเบรนท์กำหนดส่งมอบเดือนตุลาคม ร่วงลง 1.25 ดอลลาร์ หรือ 2.1% ปิดที่ 58.23 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
