Politics

แก้ ‘พ.ร.บ.สงฆ์’ถวายพระราชอำนาจตั้งมส.

monk1

เว็บไซต์สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา http://www.krisdika.go.thได้ประกาศ การรับฟังความคิดเห็นเกี่ยวกับการแก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.บ.คณะสงฆ์พ.ศ.2505 โดยระบุว่า  ตามที่คณะรัฐมนตรีมีมติ(ครม.)เมื่อวันที่ 19 มิ.ย.2561 รับหลักการ ให้มีการจัดทําร่างกฎหมายแก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.บ.คณะสงฆ์พ.ศ.2505 ในประเด็นเกี่ยวกับมหาเถรสมาคม(มส.) ในฐานะองค์กรปกครองคณะสงฆ์นั้น

เพื่อให้เป็นไปตามมาตรา77 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย และมติครม.วันที่ 4 เม.ย.2560 ประกอบกับมติครม.วันที่ 19 มิ.ย.2561 ดังกล่าว จึงเปิดรับฟังความเห็นประกอบการจัดทํา ร่างกฎหมายดังกล่าวเป็นเวลา 7 วัน ดังนั้น สภาพปัญหา มส.ตาม พ.ร.บ.คณะสงฆ์พ.ศ.2505 ประกอบด้วย สมเด็จพระสังฆราช ทรงเป็นประธานกรรมการ สมเด็จพระราชาคณะทุกรูปเป็นกรรมการโดยตําแหน่ง และพระราชาคณะอีกไม่เกิน 12 รูป ซึ่งสมเด็จพระสังฆราชทรงแต่งตั้งเป็นกรรมการและมีวาระ 2 ปี

แต่ในทางปฏิบัติปรากฏว่า สมเด็จพระราชาคณะซึ่งเป็นกรรมการโดยตําแหน่ง มักเป็นผู้เจริญพรรษายุกาล จึงชราภาพ และอาจมีปัญหาเรื่องสุขภาพ ทําให้ไม่อาจเข้าร่วมประชุมได้สม่ําเสมอ บางครั้งจําเป็นต้องลาการประชุมติดต่อกันเป็นระยะเวลานาน เหตุอย่างเดียวกันอาจเกิดได้ แม้กับกรรมการอื่นซึ่งสมเด็จพระสังฆราชทรงแต่งตั้ง
นอกจากนั้น กรรมการบางรูปในขณะนี้ต้องคดีอาญา หรือมีข้อกล่าวหาจนต้องพ้นจากตําแหน่ง จึงไม่ตั้งอยู่ในที่ศรัทธาเลื่อมใสของพุทธศาสนิกชน ทั้งที่องค์กรนี้ จะต้องเป็นหลักในการปกครองคณะสงฆ์ และก่อให้เกิดการปฏิรูปหรือการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงต่างๆ ในสังฆมณฑล

จึงสมควรปรับปรุงแก้ไขที่มา และองค์ประกอบของมส.เสียใหม่ เพื่อให้ได้พระภิกษุผู้มีพรรษาอันสมควร มีจริยวัตรที่เหมาะสมแก่การปกครองคณะสงฆ์มาเป็นกรรมการและผู้ปกครองคณะสงฆ์ในลําดับชั้นต่างๆ ตลอดจนชักนําให้เกิดการปฏิรูป หรือการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงการปกครองคณะสงฆ์ และการจัดระเบียบต่างๆ เกี่ยวกับวัดและวัตรปฏิบัติของพระภิกษุให้เรียบร้อยดีงาม ตามพระธรรมวินัย กฎหมายของบ้านเมือง ความคาดหมายของพุทธศาสนิกชน และจารีตประเพณีอันดีงามของชาติ

ยกเลิกองค์ประกอบกรรมการมส.โดยตำแหน่ง

หลักการใหม่ ให้ยกเลิกองค์ประกอบกรรมการมส. โดยตําแหน่ง ทั้งนี้ยังคงให้มีกรรมการอื่นนอกจากประธานกรรมการในจํานวนเท่าเดิม (20 รูป) แต่ถวายพระมหากษัตริย์ให้ทรงแต่งตั้ง จากพระภิกษุผู้มีพรรษาอันสมควร และมีจริยวัตรที่เหมาะสมแก่การปกครองคณะสงฆ์ และทรงมีพระราชโองการ ให้กรรมการดังกล่าวพ้นจากตําแหน่งได้ โดยให้นายกรัฐมนตรี เป็นผู้ลงนามรับสนองพระบรมราชโองการ

หลักเดียวกันนี้ใช้กับการแต่งตั้ง และถอดถอนเจ้าคณะใหญ่และเจ้าคณะภาคด้วย ตามที่มีพระราชดําริเห็นสมควร ให้กรรมการมส. ซึ่งดํารงตําแหน่งอยู่ในวันก่อนวันที่กฎหมายคณะสงฆ์ที่แก้ไขเพิ่มเติมใหม่ใช้บังคับ ยังคงดํารงตําแหน่งต่อไป จนกว่าจะทรงแต่งตั้งกรรมการมส.ขึ้นใหม่

ตามกฎหมายนี้ จึงขอเชิญพระภิกษุและบุคคลทั่วไป แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับหลักการ ตามประเด็นดังกล่าวเข้ามาได้ทางเว็บไซต์สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา http://www.krisdika.go.th ตั้งแต่บัดนี้จนถึง วันที่ 27 มิ.ย.2561

ด้านนายบรรจบ บรรณรุจิ ประธานสมาพันธ์ชาวพุทธแห่งประเทศไทย กล่าวว่า เมื่อถวายเป็นพระราชอำนาจในการแต่งตั้งกรรมการมส. ก็นับเป็นสิ่งที่ดี เพราะเราเชื่อว่า พระมหากษัตริย์ทรงเป็นผู้ทรงธรรม และที่ผ่านมาก็มีการเสนอให้แก้ไขเรื่องมส.กันมาอย่างต่อเนื่องอยู่แล้ว เนื่องจากประสบปัญหาทั้งสมเด็จพระราชาคณะอาพาธ ทำให้งานบางอย่างไม่บรรลุเป้าหมาย และนับเป็นเรื่องที่ดี ที่คณะกรรมการกฤษฎีกา เปิดรับฟังความคิดเห็นจากผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นพระ ฆราวาส ก่อนสรุปผลในการแก้ไขในหมวดดังกล่าวต่อไป

Avatar photo
ทีมบรรณาธิการข่าว The Bangkok Insight