สถาบันพัฒนาผู้ประกอบการการค้ายุคใหม่ (NEA) กางแผนผลักดันผู้ประกอบการส่วนภูมิภาค ก้าวสู่เวทีการค้าระหว่างประเทศ เร่งเฟ้นหานักส่งออกหน้าใหม่จากโครงการ ต้นกล้า ทู โกล ปี 2562 พร้อมเปิดตัวผลผลิตจากโครงการกว่า 50 ธุรกิจที่มีความพร้อมในการส่งออก
นางสาวบรรจงจิตต์ อังศุสิงห์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ มุ่งเน้นยกระดับบริการภาครัฐด้วยนโยบาย “Sharing Economy” หรือเศรษฐกิจแบ่งปัน เพื่อช่วยให้ประชาชนในทุกระดับทั่วประเทศสามารถเข้าถึงองค์ความรู้ได้อย่างทั่วถึง ทั้งในส่วนกลางและภูมิภาค รวมถึงการผลักดันผู้ประกอบการจากท้องถิ่นไปสู่ระดับโลก ด้วยการพัฒนาศักยภาพด้านการค้าระหว่างประเทศ
สำหรับโครงการสร้าง SMEs ไทยสู่เวทีการค้าสากล (ต้นกล้า ทู โกล) ประจำปี 2562 เป็นโครงการที่จัดให้กับผู้ประกอบการ ได้รับการอบรมความรู้จากวิทยากรผู้เชี่ยวชาญด้านการค้าระหว่างประเทศและนักธุรกิจผู้ประสบความสำเร็จที่มาร่วมถ่ายทอดความรู้ด้านการค้าระหว่างประเทศอย่างเจาะลึก ทำให้ผู้ประกอบการได้รับแรงบันดาลใจ ได้เรียนรู้ด้านการส่งออก การวางแผนธุรกิจ และการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบรรจุภัณฑ์
นายนันทพงษ์ จิระเลิศพงษ์ ผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาผู้ประกอบการการค้ายุคใหม่ (New Economy Academy : NEA) กล่าวเพิ่มเติมว่า NEA ได้จัดโครงการ ต้นกล้า ทู โกล ประจำปี 2562 ใน 3 ภาค ได้แก่ ภาคตะวันออก ที่จังหวัดชลบุรี, ภาคตะวันตก ที่จังหวัดกาญจนบุรี และ ภาคกลาง ที่กรุงเทพมหานคร โดยจัดอบรมทั้งหมด 4 ระยะ ตั้งแต่การสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้ประกอบการในการทำธุรกิจ ไปจนถึงการที่ผู้ประกอบการสามารถนำแผนการตลาดเชิงกลยุทธ์ของบริษัท ไปบริหารจัดการและพัฒนาผลิตภัณฑ์ รวมถึงการขยายช่องทางการจัดจำหน่ายสินค้า และสามารถสร้างเครือข่ายทางธุรกิจได้เพิ่มขึ้น
ผลสำเร็จจากการดำเนินโครงการดังกล่าว พบว่าผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการจำนวน 50 ธุรกิจ อาทิ กลุ่มเครื่องสำอาง แฟชั่นและสิ่งทอ อัญมณีและเครื่องประดับ หัตถกรรม ฯลฯ มีความพร้อมในการส่งเพิ่มมากขึ้น โดยยังสามารถนำแผนการตลาด และแผนกลยุทธ์ไปบริหารจัดการด้านต่างๆ เช่น ผลิตภัณฑ์ การสร้างตราสินค้า รวมถึงการขยายช่องทางการจัดจำหน่ายสินค้าและการบริการได้มีประสิทธิภาพที่ดีกว่าเดิม
นอกจากนี้ ยังสามารถสร้างเครือข่ายทางธุรกิจและพันธมิตรทางการค้า รวมถึงกิจกรรมจับคู่เจรจาการค้ากับบริษัทผู้ซื้อผู้ส่งออกรายใหญ่ ได้เพิ่มมากขึ้น อาทิ บริษัท คิง เพาเวอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จํากัด, บริษัท จิวเวลรี่ พลาเน็ท และบริษัท ฟู้ดสตาร์ จำกัด ทั้งยังสามารถเก็บเกี่ยวประสบการณ์ทางการค้าและการใช้ประโยชน์จากข้อมูลจากโครงการ ไปใช้ในการนำเสนอสินค้า ผลิตภัณฑ์ การเจรจาการค้ากับกลุ่มผู้นำต่างๆ ซึ่งมั่นใจว่าในอนาคต ธุรกิจเหล่านี้จะเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยขับเคลื่อนระบบเศรษฐกิจของประเทศ พร้อมก้าวสู่การแข่งขันในตลาดการค้าระดับสากล และยังสามารถพัฒนาไปสู่ผู้ส่งออกรายใหญ่ได้ในอนาคตต่อไป