เอพี (ไทยแลนด์) ประกาศความสำเร็จครึ่งปีแรก 2562 สร้างรายได้รวมสูงสุดเป็นประวัติการณ์ รวมโครงการร่วมทุน กว่า 16,160 ล้านบาท กำไรสุทธิ 1,565 ล้านบาท ยิ้มรับยอดขาย 7 เดือนแรกกว่า 24,000 ล้านบาท มั่นใจตลาดอสังหาฯ ระดับกลางถึงบนดีมานด์ยังมีอยู่ ปรับแผนส่ง RHYTHM เจริญกรุง-พาวิลเลี่ยน มูลค่า 4,700 ล้านบาท เสริมพอร์ตคอนโดใหม่อีก 1 โครงการ พร้อมลุยตลาดอสังหาฯ ต่อด้วย 19 โครงการใหม่ มูลค่ารวมกว่า 26,800 ล้านบาท
นายอนุพงษ์ อัศวโภคิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. เอพี (ไทยแลนด์) เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงาน 7 เดือนแรก บริษัทสร้างยอดขายรวมได้แล้ว 24,060 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 14.7% หากเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนหน้า โดยแบ่งเป็นยอดขายจากสินค้าแนวราบมูลค่า 14,000 ล้านบาท และคอนโดมิเนียมมูลค่า 10,060 ล้านบาท
ทั้งนี้ ยอดขายส่วนใหญ่มากจาก 4 โครงการใหม่ที่เปิดตัวไปแล้วอย่าง Aspire สุขุมวิท-อ่อนนุช, Aspire อโศก-รัชดา, RHYTHM เอกมัย-เอสเตท และ The Address สยาม-ราชเวที ที่ยังคงได้รับการตอบรับจากตลาดเป็นอย่างดี อีกทั้งมีโครงการรอเปิดตัวใหม่อยู่ในแผนอีกรวมทั้งสิ้น 19 โครงการ มูลค่ารวม 26,800 ล้านบาท โดยเป็นคอนโดมิเนียม 2 โครงการ ได้แก่ RHYTHM เจริญกรุง-พาวิวเลี่ยน ซึ่งเป็นโครงการร่วมทุน มูลค่า 4,700 ล้านบาท เปิดในไตรมาส 4 และ LIFE สาทร เซียร์รา เป็นโครงการร่วมทุน มูลค่า 6,300 ล้านบาท เตรียมเปิดในต้นเดือนกันยายนนี้
นอกจากนียังมีโครงการแนวราบอีกจำนวน 17 โครงการ มูลค่ารวม 15,800 ล้านบาท เป็นบ้านเดี่ยว 8 โครงการ มูลค่า 8,690 ล้านบาท และทาวน์โฮม 9 โครงการ มูลค่า 7,110 ล้านบาท
สำหรับภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ครึ่งปีหลัง พบว่า กำลังซื้อมีแนวโน้มกระจุกตัวอยู่ในกลุ่มสินค้าระดับกลางถึงกลางบน โดยกลุ่มคอนโดมิเนียมกำลังซื้อจะอยู่ที่ราคาเฉลี่ยไม่เกิน 200,000-250,000 บาทต่อตารางเมตร ส่วนสินค้าแนวราบมีแนวโน้มที่จะได้รับการตอบรับที่ดี ทั้งกลุ่มสินค้าบ้านเดี่ยวและทาวน์โฮม ระดับราคา 3-10 ล้านบาท
ด้านผลการดำเนินงานครึ่งปีแรกที่ผ่านมา เอพีสร้างรายได้รวมจากสินค้าแนวราบและกลุ่มคอนโด รวมโครงการร่วมทุน ได้สูงถึง 16,160 ล้านบาท รวมทั้งมีกำไรสุทธิ สูงถึง 1,565 ล้านบาท โดยหนึ่งในคีย์ไดรฟ์ยอดรับรู้รายได้ในช่วงครึ่งปีหลัง จะมาจากการเริ่มทยอยโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดในโครงการ LIFE สุขุมวิท 62 และ LIFE วัน ไวร์เลส ซึ่งทั้ง 2 โครงการคาดว่าจะเริ่มโอนกรรมสิทธิ์ได้ในเดือนตุลาคมและพฤศจิกายนนี้ เป็นต้นไป
“ภาพรวมตลาดในปัจจุบันมีการเปลี่ยนแปลงไปมาก ทั้งอายุของคนซื้อที่ลดน้อยลงเรื่อยๆ และมีความต้องการที่เฉพาะเจาะจงมากขึ้น ซึ่งเป็นอีกความท้าทายของผู้ประกอบการด้านอสังหาฯ ที่จะสร้างสรรค์ให้สินค้ามีความแตกต่าง โดดเด่นโดนใจผู้บริโภค” นายอนุพงษ์กล่าว
สำหรับตลอดปีนี้ เอพีฯ จะเปิดตัวโครงการใหม่รวม 35 โครงการใหม่ มูลค่า 57,000 ล้านบาท เป็นทาวน์โฮมจำนวน 17 โครงการ มูลค่า 14,840 ล้านบาท บ้านเดี่ยว 12 โครงการ มูลค่า 15,060 ล้านบาท และคอนโดมิเนียม 6 โครงการ มูลค่า 27,100 ล้านบาท โดย ณ วันที่ 31 กรกฎาคม 2562 บริษัทมีสินค้ารอรับรู้รายได้ รวมโครงการร่วมทุน มูลค่า 54,898 ล้านบาท เป็นโครงการแนวราบ มูลค่า 9,543 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะรับรู้ทั้งหมดภายในปีนี้ และคอนโดมิเนียมรวมโครงการร่วมทุน มูลค่า 45,355 ล้านบาท แบ่งเป็นคอนโดเอพี 4,899 ล้านบาท โดยจะทยอยรับรู้ในปีนี้ประมาณ 1,873 ล้านบาท และคอนโดร่วมทุน 40,456 ล้านบาท รับรู้ในปีนี้ประมาณ 4,111 ล้านบาท