แมนเชสเตอร์ ซิตี้ สโมสรแชมป์ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ รอดพ้นจากการถูกสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า) ลงโทษแบนเรื่องเสริมทัพ จากกรณีที่ทำผิดกฎเรื่องการโยกย้ายทีมของนักเตะระดับนานาชาติ และการลงทะเบียนนักเตะที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี
คดีนี้เกิดเมื่อปี 2017 หลังจาก จอร์จ เดวีส ชาวเซียร์รา ลีโอน กับ โดมินิค โอดูโร นักเตะกานา 2 ผลผลิตจากอะคาเดมี “Ghana’s Right to Dream” เผยต่อ “ยิลลันด์ส-โพสเทน” หนังสือพิมพ์ของ เดนมาร์ก ว่าทั้งคู่เซ็นสัญญาร่วมทัพ “เดอะ ซิตีเซ็นส์” และลงเล่นเกมระดับเยาวชน ก่อนอายุครบ 18 ปี
โดยมีการคาดเดากันว่า แมนฯ ซิตี้ อาจจะถูกแบนจากการทำผิดดังกล่าว ทว่าล่าสุด ฟีฟ่า เลือกสั่งปรับเงิน “เรือใบสีฟ้า” เป็นจำนวน 315,000 ปอนด์ (ประมาณ 11.66 ล้านบาท) เท่านั้น ทำเอาหลายๆ ฝ่ายถึงกับเซอร์ไพรส์ เพราะก่อนหน้านี้ บาร์เซโลน่า, แอตเลติโก มาดริด และ เชลซี ต่างถูกลงโทษห้ามเซ็นสัญญานักเตะจากการทำผิดกรณีคล้ายๆ กัน
ฟีฟ่าแถลงการณ์ว่า “คณะกรรมการด้านระเบียบวินัยของ ฟีฟ่า ได้ลงโทษสโมสรฟุตบอลอังกฤษ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ สำหรับการทำผิดกฏที่เกี่ยวข้องกับการย้ายทีมของนักเตะระดับนานาชาติ และการลงทะเบียนนักเตะที่อายุต่ำกว่า 18 ปี”
“แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ถูกตัดสินว่าทำผิดกฏตามมาตรา 19 รวมถึงข้ออื่นๆ ของ ฟีฟ่า เกี่ยวกับเรื่องสถานะและการโยกย้ายทีมของนักเตะ คณะกรรมการด้านระเบียบวินัยได้ตระหนักถึงเรื่องที่ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ยอมรับในความผิด และได้ลงโทษสโมสรแห่งนี้ด้วยการปรับเงินเป็นจำนวน 370,000 ฟรังก์สวิส (เทียบเท่ากับ 315,000 ปอนด์)”
“การคุ้มครองนักเตะเยาวชน ถือเป็นองค์ประกอบสำคัญในกรอบการกำกับดูแลโดยรวมของ ฟีฟ่า ซึ่งเกี่ยวโยงกับเรื่องโยกย้ายทีมของนักเตะ และการบังคับใช้กฎที่มีประสิทธิภาพถือเป็นสิ่งที่สำคัญยิ่ง ซึ่งได้รับการยืนยันมาแล้วหลายครั้งโดยศาลอนุญาโตตุลาการกีฬา” แถลงการณ์จาก ฟีฟ่า ระบุ
ทั้งนี้ก่อนหน้านี้ “เรือใบสีฟ้า” เพิ่งถูกแบนเซ็นสัญญาผู้เล่นระดับเยาวชน 2 ปี และปรับ 3 แสนปอนด์ (11.1 ล้านบาท) ข้อหาทำผิดกฎย้ายสังกัดของ พรีเมียร์ลีก เมื่อเดือนพฤษภาคม 2017
นอกจากนี้ แมนฯ ซิตี กำลังถูก สหพันธ์ฟุตบอลยุโรป (UEFA) สอบสวนกรณีทำผิดกฎควบคุมการเงิน (Financial Fair Play :FFP) หากถูกตัดสินว่าผิดจริงมีโอกาสโดนขับพ้นการแข่งขันฟุตบอลยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก
