ตลาดหุ้นเอเชีย ปรับตัวลดลงในช่วงเช้าวันนี้ (13 ส.ค.) ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้า การประท้วงในฮ่องกง และค่าเงินเปโซอาร์เจนตินาที่ดิ่งลงอย่างหนัก ทำให้นักลงทุนเลือกที่จะเข้าไปลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความปลอดภัยอย่างพันธบัตร ทองคำ และเงินเยน
ดัชนีนิกเคอิ ของญี่ปุ่น เคลื่อนไหวล่าสุดร่วงลง 253.57 จุด หรือ 1.23% มาอยู่ที่ 20,431.25 จุด ดัชนีฮั่งเส็ง ฮ่องกง ปรับลง 347.28 จุด หรือ 1.34% ที่ 25,477.44 จุด ดัชนีคอมโพสิต เซี่ยงไฮ้ ลดลง 14.64 จุด หรือ 0.52% ที่ 2,800.36 จุด และดัชนีสเตรทไทมส์ ของสิงคโปร์ ขยับลงมา 27.90 จุด หรือ 0.88% ที่ 3,141.04 จุด
ขณะที่ ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ของสหรัฐ ปิดซื้อขายเมื่อคืนนี้(12 ส.ค.)ที่ 25,897.71 จุด ลดลง 389.73 จุด หรือ 1.48% ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 2,883.09 จุด ลดลง 35.56 จุด หรือ 1.22% และดัชนีแนสแด็กปิดที่ 7,863.41 จุด ลดลง 95.73 จุด หรือ 1.20%
แรงเทขายในตลาดเกิดขึ้น หลังความรู้สึกนักลงทุนอยู่ในภาวะย่ำแย่ ผลจากสัญญาณที่มากขึ้นว่า สหรัฐ และจีน จะไม่แก้ปัญหาความขัดแย้งทางการค้าที่ยืดเยื้อมาร่วมปีในเร็ววันนี้ ทั้งยังโดนซ้ำเติมจากเรื่องการปิดสนามบินฮ่องกง หลังผู้ประท้วงเข้ายึดพื้นที่อาคารผู้โดยสาร
เทรดเดอร์ยังกังวลเกี่ยวกับค่าเงินเปโซอาร์เจนตินาที่ทรุดลงอย่างหนักเคลื่อนไหวที่ระดับประมาณ 55.85 เปโซต่อดอลลาร์ จากการที่ประธานาธิบดีเมาริซิโอ มาครี ซึ่งมีนโยบายเป็นมิตรกับตลาดคะแนนเสียงร่วงลงในการเลือกตั้งรอบเลือก ทำให้เกิดความเสี่ยงมากขึ้น ที่อาร์เจนตินา จะกลับเข้าไปสู่นโยบายเศรษฐกิจแบบแทรกแซง
ทางด้านราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสอินเตอร์มีเดียท กำหนดส่งมอบเดือนกันยายน ที่ตลาดสหรัฐ เมื่อคืนนี้เพิ่มขึ้น 43 เซนต์ หรือ 0.8% ปิดที่ 54.93 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล และราคาน้ำมันดิบเบรนท์ กำหนดส่งมอบเดือนตุลาคมเพิ่มขึ้น 4 เซนต์ ปิดที่ 58.57 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ส่วนราคาทองคำโคเม็กซ์ กำหนดส่งมอบเดือนธันวาคม ทะยานขึ้นถึง 8.7 ดอลลาร์ หรือ 0.58% ปิดที่ 1,517.20 ดอลลาร์ต่อออนซ์
