Politics

‘เจษฎ์’ แนะ 3 ทางแก้ปัญหาปมถวายสัตย์ฯ ชี้ไม่จำเป็นต้องลาออก

“เจษฎ์” ชี้ ถวายสัตย์ฯ ไม่สมบูรณ์ ไม่มีบทลงโทษตามกฎหมาย ไม่จำเป็นต้องลาออก แนะ 3 แนวทางแก้ปัญหา เชื่อ เรื่องที่เกิดขึ้นไม่ส่งผลต่อเสถียรภาพรัฐบาล ส่วนการเป็นรัฐบาลที่สมบูรณ์ และการทำงานจะโมฆะหรือไม่ ขอรอศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย

1565415032792 960x0
เจษฎ์ โทณวณิก

นายเจษฎ์ โทณวณิก นักวิชาการด้านกฎหมาย อดีตที่ปรึกษาคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) ให้สัมภาษณ์ กรณีที่ฝ่ายค้านเรียกร้องให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี แสดงความรับผิดชอบ ด้วยการลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี จากกรณีกล่าวคำถวายสัตย์ปฎิญาณตนไม่เป็นไปตามมาตรา 161 ของรัฐธรรมนูญ ว่า ในรัฐธรรมนูญไม่ได้ระบุชัดเจนว่า การถวายสัตย์ปฎิญาณตนไม่ครบถ้วนจะผิด หรือขัดแย้งกับรัฐธรรมนูญ และไม่มีบทลงโทษบัญญัติไว้

แต่ตามมาตรา 5 วรรค 1 ของรัฐธรรมนูญ ระบุว่า รัฐบาลจะกระทำการใดๆ ที่ขัดแย้งกับรัฐธรรมนูญไม่ได้ ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ได้ทำขั้นตอนทุกอย่างถูกต้อง เพียงแต่อาจไม่สมบูรณ์ครบถ้วน ดังนั้นจากนี้ต้องทำให้สมบูรณ์

“มาตรา 5 วรรค2 ของรัฐธรรมนูญ ระบุว่า หากการกระทำใดไม่เข้าข่าย มาตรา 5 วรรค 1 ให้ยึดตามจารีตประเพณีการปกครองเดิมที่เคยทำมา ซึ่งในอดีตก็ไม่เคยมีนายกรัฐมนตรีคนใดถวายสัตย์ฯ ไม่ครบถ้วนแล้วต้องลาออกเช่นกัน ส่วนตัวจึงไม่คิดว่า พล.อ.ประยุทธ์จะต้องลาออกจากนายกรัฐมนตรี” นายเจษฎ์ กล่าว

นายเจษฎ์ กล่าวว่า สำหรับวิธีแก้ปัญหามี 3 แนวทางคือ 1.อยู่เฉยๆ เพราะถือว่าได้ถวายสัตย์ฯ แล้ว 2. เมื่อมีผู้ไปยื่นเรื่องต่อผู้ตรวจการแผ่นดินและอัยการ ทั้ง 2 หน่วยงานนี้ สุดท้ายต้องส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ดังนั้น คือรอศาลรัฐธรรมนูญชี้ขาด และ 3.หากเห็นว่าไม่ครบถ้วนจริง นายกรรัฐมนตรีทำหนังสือขอพระราชทานอภัยโทษ เพื่อขอพระบรมราชวินิจฉัยว่า ต้องถวายสัตย์ฯ อีกครั้งหรือไม่ หรือจะมีพระราชประสงค์ให้ดำเนินการอย่างไร

นายเจษฎ์ กล่าวว่า การจะมีผู้ได้ดำเนินการเอาผิดกับ พล.อ.ประยุทธ์ ตามกฎหมายอาญามาตรา 112 ไม่น่าจะเข้าข่าย เพราะไม่ได้เป็นการอาฆาตมาดร้ายต่อสถาบัน หรือไม่ได้ดูหมิ่น เพียงแต่กระบวนการไม่ครบถ้วนสมบูรณ์ ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้บอกแล้วไม่มีเจตนา และคงไม่มีใครที่จะเจตนาขัดรัฐธรรมนูญถวายสัตย์ฯ ไม่ครบ

”การถวายสัตย์ฯ ตามมาตรา 161ถือเป็นเรื่องสำคัญ ที่ต้องทำให้สมบูรณ์ แต่เชื่อว่าเรื่องนี้จะไม่ส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพของรัฐบาล เพราะสามารถแก้ไขได้ เพียงแต่ต้องทำให้คนยอมรับด้วยเท่านั้น” นายเจษฎ์ กล่าว

นายเจษฎ์ ยังกล่าวถึง ข้อสังเกตหากรัฐบาลดำเนินการตามมาตรา 161 ไม่สมบูรณ์ จะถือว่ามีอำนาจเต็มในการบริหารประเทศ และสิ่งที่ดำเนินการระหว่างนี้จะถือเป็นโมฆะะหรือไม่ ว่า ทั้งหมดต้องรอให้ศาลรัฐธรรมนูญเป็นผู้วินิจฉัย ความเห็นที่เกิดขึ้นมาในระหว่างนี้ ถือเป็นการสมมุติขึ้นมาของแต่ละบุคคล เพราะเรื่องลักษณะการถวายสัตย์ฯ ไม่สมบูรณ์ยังไม่เคยเกิดขึ้น

“ไม่ใช่ว่าไม่เคยถวายสัตย์ฯ เพียงแต่ไม่สมบูณ์ รัฐบาลไม่ใช่ทำเรื่องที่ไม่เคยเกิดให้เกิดขึ้น เพียงแต่ต้องทำให้สิ่งที่ไม่สมบูรณ์มีความสมบูรณ์ ถ้าศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยในทางร้าย เท่ากับว่าการแถลงนโยบายจะต้องกลายเป็นศูนย์ รัฐมนตรีทุกคนจะถือว่ายังไม่ได้ปฎิบัติหน้าที่ ยังรัฐบาลไม่มี ซึ่งรัญธรรมนูญกำหนดว่า เมื่อยังไม่มีรัฐบาล จะถือว่าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ยังคงต้องอยู่ทำหน้าที่ต่อ ดังนั้น คสช.จะต้องกลับมาบริหารประเทศ อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้อยากให้รอความชัดเจนจากศาลรัฐธรรมนูญจะดีที่สุด”นายเจษฎ์กล่าว

ที่มา : สำนักข่าวไทย

Avatar photo