เมื่อเร็วๆนี้ ดร.สมศักดิ์ จังตระกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น ประธานเปิดการอบรมเรื่อง “เข้าใจ รู้ทัน ร่วมป้องกันโรค ASF ในสุกร” แก่เกษตรกรผู้เลี้ยงหมูรายย่อย ในพื้นที่กว่า 260 คน เป็นจังหวัดที่ 10 ของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่ภาครัฐและเอกชนร่วมมือกันสร้างภูมิคุ้มกันโรคระบาดให้กับผู้เลี้ยงหมูรายย่อย
ดร.สมศักดิ์ กล่าวว่า ตามแผนการเตรียมความพร้อม และรับมือโรค ASF ในสุกร ที่เป็นวาระแห่งชาตินั้น จังหวัดขอนแก่นให้ความสำคัญและประสานความร่วมมือทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการดำเนินการป้องกันโรคระบาดเต็มที่ เพื่อป้องกันความเสียหายที่จะเกิดกับเกษตรกรผู้เลี้ยงหมูในจังหวัดขอนแก่น รวมไปถึงป้องกันไม่ให้เกิดความเสียหายต่อเศรษฐกิจทั้งทางตรงและทางอ้อมต่ออุตสาหกรรมปศุสัตว์ในระดับจังหวัดและระดับประเทศ
น.สพ.ชาญประเสริฐ พลซา ปศุสัตว์จังหวัดขอนแก่น กล่าวว่า กรมปศุสัตว์ได้สั่งการให้ทุกพื้นที่เข้มงวดการเฝ้าระวังป้องกันโรค เตรียมพร้อมรับมือโรค ASF ในสุกร ยังได้ร่วมมือกับ ซีพีเอฟ ในการจัดอบรมให้ความรู้เกี่ยวกับโรคกับผู้เลี้ยงหมูรายย่อย สามารถป้องกันและรับมือกับโรค ตลอดจนระบบการป้องกันโรคของฟาร์ม จากบริษัทเบอริงเกอร์ อินเกลไฮม์ แอนิมอล เฮลท์ (ประเทศไทย)
“โรค ASF ในสุกร เป็นโรคที่ไม่ติดต่อสู่คน ขณะนี้ยังไม่มีการรายงานพบการระบาดของโรคในประเทศ หากพบสุกรแสดงอาการป่วยคล้ายโรคระบาดให้แจ้งเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์ในพื้นที่ทันที หรือ Call Center ศูนย์ปฏิบัติการเฝ้าระวังและควบคุมโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกร (War Room) จังหวัดขอนแก่น กรมปศุสัตว์ DLD 4.0 “แจ้งการเกิดโรคระบาด” เพื่อให้เจ้าหน้าที่ให้การช่วยเหลือทันท่วงที”
น.สพ. จตุรงค์ โยธารักษ์ รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส บริษัทเจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ กล่าวว่า บริษัทได้ร่วมกับกรมปศุสัตว์ลงสำรวจพื้นที่จังหวัดขอนแก่น พบว่าเกษตรกรรายย่อยส่วนใหญ่เป็นผู้สูงวัย เลี้ยงหมูเป็นอาชีพเสริมควบคู่ กับทำการเกษตร มีความรู้ความเข้าใจ การป้องกันโรคดังกล่าวไม่มากพอ ประกอบกับไม่ค่อยได้ติดตามข่าวสารจากสื่อต่างๆ หรือไม่ได้รับข่าวสารจากกรมปศุสัตว์ เกษตรกรรายย่อยที่มีความรู้เรื่องการป้องกันโรค แต่ก็ไม่มีแหล่งซื้อหายาฆ่าเชื้อโรคในพื้นที่ บริษัทจึงได้แจกน้ำยาฆ่าเชื้อพร้อมกับการให้ความรู้เรื่องการป้องกันโรคแก่เกษตรกรรายย่อยในแต่ละพื้นที่
ด้าน น.สพ.ดำเนิน จตุรวิธวงศ์ รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส ด้านธุรกิจสุกร ซีพีเอฟ กล่าวว่า แม้หมูของบริษัทจะอยู่ในฟาร์มระบบปิด และมีระบบการป้องกันโรคที่เข้มงวดจะไม่พบการระบาดของ ASF แต่บริษัทก็ยังยกระดับการป้องกันฟาร์มให้เข้มข้นยิ่งขึ้น โดยอบรมให้ความรู้แก่เกษตรกรคอนแทรคฟาร์มมิ่งของบริษัททั้ง 100% เพิ่มการซ้อมแผนฉุกเฉินในฟาร์มที่มีฟาร์มอื่นๆ อยู่ในรัศมีใกล้เคียง
ซีพีเอฟมีการแบ่งฟาร์มมาตรฐานของบริษัทและเกษตรกรออกเป็น 3 กลุ่ม1.กลุ่มที่มีความเสี่ยงต่ำ หรือ ฟาร์มที่ไม่มีฟาร์มอื่นอยู่ใกล้เคียงในรัศมี 5 กม.
2. กลุ่มที่มีความเสี่ยงปานกลาง หรือฟาร์มที่มีฟาร์มอื่นอยู่ใกล้เคียงในรัศมี 1-5 กม. และ3.กลุ่มที่มีความเสี่ยงสูง ได้แก่ฟาร์มของบริษัทที่มีฟาร์มอื่นอยู่ใกล้เคียงในรัศมีน้อยกว่า 1 กม.
การซักซ้อมแผนฉุกเฉิน ทำในกลุ่มฟาร์มที่มีความเสี่ยงสูง โดยจำลองสถานการณ์การเกิดโรคภายในฟาร์ม ฝึกซ้อมขั้นตอนการจัดการโรค ASF อย่างละเอียดทุกขั้นตอน เช่น การสวมชุดของเจ้าหน้าที่ที่รัดกุม การเคลื่อนย้ายสุกรที่เป็นโรคโดยป้องกันสารคัดหลั่ง จากตัวสุกรไม่ให้ตกตามรายทางภายในฟาร์ม การจัดการเส้นทางขนย้ายสัตว์ไปยังบ่อฝัง การเผาทำลายเสื้อผ้าของเจ้าหน้าที่หลังเสร็จสิ้นภารกิจ รวมถึงการจัดเตรียมที่พักสำรองสำหรับเจ้าหน้าที่ฉุกเฉิน
