Politics

อย่ามโนกันเอง!! ‘ผบ.ทบ.’ ขอฟังข่าวระเบิดจากตำรวจ

“ผบ.ทบ.” ขออย่ามโนข่าวบึ้มป่วนกรุง ขอให้มั่นใจตำรวจสามารถทำหน้าที่ได้อย่างดี ชี้คนก่อเหตุเป็นคนกลุ่มเดิม ที่หวังดิสเครดิตรัฐบาล

พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ 2

พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก กล่าวถึงความคืบหน้าการตรวจสอบเหตุคนร้ายลอบระเบิดหลายจุดทั่วกรุงเทพฯ เมื่อวันศุกร์ที่ 2 สิงหาคมที่ผ่านมาว่า การให้ข่าวทางโซเชียลและสื่อต่างๆ ต้องอ้างอิงตำรวจ โดยเฉพาะการให้ข่าว ต้องติดตามการแถลงจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ อย่ามโนกันไปเอง เพราะมีคนทั้งชอบและไม่ชอบก็ต่างมโนกันไป ต้องระวังข่าวปลอม

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีที่ควบคุมหน่วยงานด้านความมั่นคง จะเป็นผู้สั่งการในงานของทหารและตำรวจ และวันพรุ่งนี้ (7 ส.ค.) นายกรัฐมนตรีจะลงพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ส่วนตนก็จะต้องไปดูเรื่องการวางกำลังและการจัดกำลังใหม่กับแม่ทัพภาคที่ 4 ในการดูแลประชาชน

อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันรัฐบาลพยายามตั้งศูนย์ในการต่อต้านเฟคนิวส์หรือข่าวปลอมขึ้นมา ซึ่งหลายประเทศเอาจริงเอาจังกับเรื่องนี้มาก มีระบบให้ความรู้กับประชาชน เพราะประชาชนทุกคนถือว่ามีสิทธิ์มีเสียง และมีไมโครโฟนเป็นของตัวเอง นั่นคือโทรศัพท์มือถือ ที่จะสามารถกดอะไรก็ได้ อยู่ที่วิจารณญาณ และจริยธรรมในตัวของตัวเองในสิ่งที่ตัวเองส่งไป ขอให้ตระหนักถึงการรับและแชร์ข้อมูล โดยขอให้ฟังข้อมูลจากเจ้าหน้าที่เป็นหลัก อย่าไปติดตามอะไรที่ไม่มีที่มาที่ไป

เมื่อถามว่า สาเหตุของการก่อเหตุจะเกิดจากสิ่งใด พล.อ.อภิรัชต์ กล่าวว่า สาเหตุเพราะต้องการทำให้เกิดความไม่เชื่อมั่น เนื่องจากเกิดเหตุในช่วงที่บ้านเมืองมีผู้นำต่างประเทศมาประชุมงานด้านการต่างประเทศ ซึ่งเคยเห็นเหตุการณ์แบบนี้ในการประชุมอาเซียน เมื่อปี 52 ที่เมืองพัทยา จ.ชลบุรี ที่จ.ภูเก็ต และที่ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์

เมื่อถามว่า กลุ่มเดิมๆ ที่เคยระบุไว้ ฝ่ายความมั่นคงได้ติดตามความเคลื่อนไหวคนกลุ่มนี้ตลอดเวลาหรือไม่ พล.อ.อภิรัชต์ กล่าวว่า ยังไม่สามารถเชื่อมโยงไปถึงคนที่บงการ หรือวางแผนทุกอย่างด้วยหลักกลยุทธ์และยุทธวิธี เพื่อให้มีคนไปดำเนินการปฎิบัติ เหล่านี้เป็นกระบวนการ คนที่บงการส่วนใหญ่จะสืบไปถึงตัวได้ยาก ทำให้เราได้แต่คาดเดา และต้องใช้เวลาในการหาหลักฐาน

“ขณะนี้มั่นใจว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถปฎิบัติงานได้เป็นอย่างดี และตอบสนองนายกรัฐมนตรีได้ ในส่วนของกองทัพบก ให้การสนับสนุนเรื่องข้อมูลข่าวสารที่เคยรวบรวมไว้ กลุ่มเดิมที่ผมหมายถึง คือกลุ่มเดิมที่เป็นมาสเตอร์มาย หรือผู้อยู่เบื้องหลัง มีความคิดที่จะก่อเหตุในทุกรูปแบบ ปัจจุบันไม่ว่าจะเป็นการทำระเบิดหรือการทำข่าวปลอม ก็ถือเป็นการบ่อนทำลายประเทศอีกแบบหนึ่งเหมือนกัน” พล.อ.อภิรัชต์ กล่าว

เมื่อถามว่า ตอนนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจจับผู้ต้องสงสัยได้แล้ว มั่นใจได้หรือไม่ว่าจะสาวไปถึงตัวผู้บงการได้ พล.อ.อภิรัชต์ กล่าวว่า ขึ้นอยู่กับขีดความสามารถของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่ต้องไปขยายผลในการสืบหาตัวผู้กระทำความผิด คงต้องใช้เวลา บางครั้งที่มีการเรียกว่าตัดตอน คงไม่ใช่ง่ายๆ เพราะทุกอย่างมีความลึกลับซับซ้อน ยิ่งนานวันความลึกลับซับซ้อนของขบวนการมีเทคโนโลยีเป็นส่วนช่วยสามารถเข้าถึงง่าย แต่ในทางกลับกันจะสามารถเข้าถึงตัวผู้บงการได้ง่ายด้วยเช่นเดียวกัน

ส่วนที่มีบางฝ่ายเสนอให้ตัดงบฯ ของกองทัพ เพื่อไปซื้อกล้องวงจรปิดเพิ่มเติมนั้น พล.อ.อภิรัชต์ กล่าวว่า ไม่เกี่ยวกัน เพราะกล้องวงจรปิดมีจำนวนมากอยู่แล้ว ทั้งหมดขึ้นอยู่กับการบูรณาการในการใช้งาน เพราะทุกหน่วยงานมีกล้องวงจรปิดทั้งหมด สังเกตว่าบางครั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ไม่สามารถติดตามคนร้ายได้จากกล้องวงจรปิดที่มีอยู่ บางทีต้องใช้ของธนาคาร ร้านสะดวกซื้อ ห้างร้าน ที่เขามีไว้ปกป้องในส่วนของเขาเอง ตอนนี้มีระบบการออนไลน์แบบบูรณาการ รวมทั้งยังมีกล้องของ กทม. ตำรวจจราจร ทหาร และตำรวจ คือทุกคนมีกล้องวงจรปิดทั้งหมด สามารถมาบูรณาการใช้ได้ และการซื้อกล้องวงจรปิดก็ไม่ใช่ในส่วนงบประมาณของกระทรวงกลาโหม

Avatar photo