Economics

กขค.สั่งปรับ ‘เอ็ม-150’ 12 ล้าน – ยุติคดี ‘โลตัส -บิ๊กซี – คาร์ฟูร์’

คณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า (กขค.) เคาะดำเนินการ 3 คดี สั่งปรับ M-150 จำนวน 12 ล้าน แลกยุติคดีเอาเปรียบตัวแทนจำหน่าย ห้ามขายสินค้าเจ้าอื่น พร้อมสั่งปรับผู้รับซื้อผลผลิตทางการเกษตร 2 ราย ทำตัวหัวหมอข่มขู่ และห้ามผู้ประกอบการรายอื่นเข้ามารับซื้อผลผลิตทางการเกษตรในพื้นที่แม่ฮ่องสอน และเชียงใหม่ ส่วนกรณีเทสโก้ โลตัส ออกแคมเปญเอาเปรียบ “บิ๊กซี-คาร์ฟูร์” สั่งยุติคดี

resize 5d47d58646b0a

ศ.ดร.สกนธ์ วรัญญูวัฒนา ประธานกรรมการกขค. เปิดเผยว่า คณะกรรมการกขค. มีมติเป็นเอกฉันท์กำหนดค่าปรับ ที่จะเปรียบเทียบปรับกับบริษัท เอ็ม–150 จำกัด ผู้ต้องหาที่ 1 และ นายประธาน ไชยประสิทธิ์ กรรมการบริษัท ผู้ต้องหาที่ 2 เป็นจำนวนเงินรายละ 6 ล้านบาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 12 ล้านบาท โดยให้เลขาธิการ กขค. ดำเนินการเปรียบเทียบปรับเรียบร้อยแล้ว เมื่อวันที่ 1 สิงหาคมที่ผ่านมา เป็นผลให้คดีเลิกกัน โดยสำนักงานคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า ได้ส่งผลการดำเนินการไปยังสำนักงานอัยการสูงสุดเพื่อทราบเรียบร้อยแล้ว

“คดีนี้ มีตัวแทนจำหน่ายร้องเรียนว่าบริษัทเอ็ม-150 ได้ห้ามตัวแทนจำหน่ายขายสินค้าของคู่แข่ง เหตุเกิดระหว่างเดือนตุลาคม 2554 – กรกฎาคม 2555 โดยคณะอนุกรรมการสอบสวนเพื่อสืบสวนและสอบสวน ได้สอบสวนแล้วเสนอความเห็นว่ามีความผิดตามมาตรา 25 ที่แทรกแซงการประกอบธุรกิจ จำกัดการประกอบธุรกิจ และมาตรา 29 ทำการค้าไม่เป็นธรรม ซึ่ง กขค. เห็นด้วยและได้สั่งฟ้องต่อสำนักงานอัยการสูงสุด เมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ต่อมาสำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศ 2 ได้ให้ กขค. สอบสวนเพิ่ม แต่ผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย ได้ยื่นหนังสือแสดงความประสงค์ต่อ กขค. ขอให้พิจารณาเปรียบเทียบปรับ เห็นว่าเปรียบเทียบปรับได้ จึงได้มีมติให้สั่งปรับดังกล่าว จึงถือว่าคดีนี้เป็นอันสิ้นสุด”

ส่วนกรณีบริษัท บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือห้างบิ๊กซี และ บริษัท เซ็นคาร์ จำกัด หรือห้างคาร์ฟูร์ ได้ร้องเรียนต่อคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้าว่า บริษัท เอก-ชัย ดีสทริบิวชั่น ซิสเทม จำกัด หรือห้างเทสโก้ โลตัส ได้ร้องเรียนเทสโก้ โลตัส ใช้อำนาจเหนือตลาดและทำการค้าไม่เป็นธรรม โดยโฆษณาว่า ผู้ถือคูปองคาร์ฟูร์สามารถนำมาเพิ่มมูลค่าได้สองเท่า สำหรับซื้อสินค้าที่ได้เทสโก้โลตัส และให้ผู้เป็นเจ้าของบัตร I-Wish ที่ไม่ได้เป็นสมาชิกบัตรเทสโก้คลับการ์ดส่ง SMS เพื่อรับบัตรของขวัญมูลค่า 200 บาท สำหรับนำไปใช้จ่ายที่ห้าง เหตุเกิด 23–28 มกราคม 2554 , 15–24 กรกฎาคม 2554 และ 1–24 สิงหาคม 2554

คณะอนุกรรมการสอบสวนเพื่อทำการสืบสวนและสอบสวนข้อเท็จจริง ซึ่งได้เสนอความเห็นต่อคณะกรรมการแข่งขันว่า เทสโก้ โลตัส ผู้ต้องหาที่ 1 และนายเคิร์ท ปีเตอร์ แคมพ์ ในฐานะกรรมการและผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด มีความผิดตามมาตรา 29 ตามพ.ร.บ.การแข่งขันทางการค้า พ.ศ. 2542 ซึ่งเป็นการกระทำความผิดทางอาญา และยังคงหลักการกำหนดความผิดไว้ตามมาตรา 57 แห่ง พ.ร.บ.การแข่งขันทางการค้า พ.ศ. 2560 ซึ่งเป็นโทษทางปกครอง โดย กขค. เห็นว่าไม่อาจนำโทษทางปกครองมาใช้บังคับได้ เพราะสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาได้ให้ความเห็นว่าการนำหลักบทบัญญัติมาตรา 3 แห่งประมวลกฎหมายอาญามาใช้บังคับ ในฐานะกฎหมายเป็นคุณ ให้กระทำได้เฉพาะการใช้บังคับแก่ความรับผิดทางอาญาของผู้กระทำความผิดเท่านั้น ไม่สามารถนำมาใช้กับโทษทางปกครองได้ ซึ่งคณะกรรมการฯ จะนำเสนอยุติเรื่องส่งให้สำนักงานอัยการสูงสุดพิจารณาต่อไป

ก่อนหน้านี้ ศาลฎีกาได้มีคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6599/2559 วินิจฉัยว่าการจัดรายการส่งเสริมการขายของผู้ต้องหาที่ 1 ที่ได้นำคูปองของผู้กล่าวหาที่ 1 มาเพิ่มมูลค่าเป็นสองเท่า ที่ห้างของผู้ต้องหาที่ 1 เป็นการกระทำการที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 421 ให้ผู้ต้องหาที่ 1 รับผิดชอบต่อผู้กล่าวหาที่ 1 เป็นเงิน 2,456,412.88 บาท และรับผิดชอบต่อผู้กล่าวหาที่ 2 เป็นเงิน 1,493,137 บาท

ส่วนกรณีบัตร I – Wish เนื่องจากเมื่อผู้บริโภคดำเนินการตามที่ห้างเทสโก้ โลตัส โฆษณาไว้ ก็จะได้รับเงิน 200 บาท ไปซื้อของที่เทสโก้ โลตัส แต่ไม่ได้ผูกมัดว่าจะต้องซื้อของที่ห้างเทสโก้ โลตัส ตลอดไป ยังสามารถกลับไปซื้อของที่ห้างบิ๊กซีได้ โดยไม่มีผลกระทบต่อการเป็นสมาชิกบัตรของผู้กล่าวหาที่ 2 ซึ่งไม่เข้าข่ายเป็นการใช้อำนาจตลาดอย่างไม่เป็นธรรม

Avatar photo