Marketing Trends

น้ำดื่ม ‘สิงห์’ เปลี่ยนฉลาก 20 ล้านขวด ช่วยตามหาเด็กสูญหาย ประเดิม 5 คนต้อนรับ ‘วันแม่’

เริ่มเดินหน้าอย่างเป็นทางการแล้ว สำหรับ น้ำดื่มสิงห์ โดย บริษัท สิงห์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด ที่ร่วมกับ มูลนิธิกระจกเงา ผุดโครงการ “น้ำดื่มสิงห์ คืนดวงใจให้แม่” ด้วยการผลิตน้ำดื่มสิงห์ฉลากพิเศษ ที่นำภาพและข้อมูลของเด็กที่หายไปจากพ่อแม่มาลงบนฉลากน้ำดื่มสิงห์ เบื้องต้นเริ่มจากข้อมูลเด็กที่หายไปและใช้เวลาติดตามมานาน 6-17 ปี และยังไม่พบ รวม 5 คน บนฉลากน้ำดื่มสิงห์ 20 ล้านขวด

45678

นายภูริต ภิรมย์ภักดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บุญรอดเทรดดิ้ง จำกัด เปิดเผยว่า การร่วมมือในโครงการดังกล่าว เป็นการใช้จุดแข็งของแบรนด์น้ำดื่มสิงห์ ที่สามารถเข้าถึงผู้บริโภคได้ในวงกว้าง และถือเป็นช่องทางการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพ รวมถึงการที่เครือบุญรอดฯ มีช่องทางจำหน่ายและการกระจายสินค้าทั่วถึงและครอบคลุมพื้นที่ในประเทศไทย จึงคาดหวังว่า การใช้ฉลากน้ำดื่มสิงห์เพื่อเป็นพื้นที่สร้างประโยชน์ในการเป็นช่องทางช่วยตามหาน้องๆ จะช่วยให้น้องๆ ได้กลับสู่อ้อมอกพ่อแม่อีกทางหนึ่ง

นอกจากนี้ ยังคาดหวังว่า หากผู้บริโภคทุกคนช่วยกันโพสต์รูปเหล่านี้จากฉลากน้ำดื่มสิงห์ ลงบนสื่อสังคมออนไลน์ของตัวเอง จะเป็นอีกช่องทางสำคัญที่ช่วยกระจายการรับรู้และร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการตามหาเด็กหายด้วย และหากมีผู้ประกอบการหรือใครก็ตามจะนำไปใช้ในลักษณะเดียวกัน ก็สามารถทำได้เลย เพื่อร่วมกันช่วยเหลือและตามหาเด็กได้

“ปัญหาเด็กหายเป็นอีกปัญหาหนึ่งที่เกิดขึ้นในสังคมมาตลอด เป็นความทุกข์ทรมานใจของพ่อแม่ ซึ่งเราพบว่า น้ำดื่มสิงห์น่าจะเป็นอีกช่องทางการสื่อสารที่ช่วยติดตามได้ จึงติดต่อไปยังมูลนิธิกระจกเงาและทำงานร่วมกันจนเกิดเป็นโครงการ “คืนดวงใจให้แม่ return heart to home” ในวันนี้” นายภูริตกล่าว

45666

สำหรับการจัดพิมพ์ฉลากพิเศศภาพและข้อมูลเด็กหายครั้งนี้ จะเริ่มจากขวดน้ำสิงห์ขนาด 750 มิลลิลิตร และขนาด 600 มิลลิลิตร เนื่องจากเป็นขนาดที่ได้รับความนิยมและพกพาสะดวก โดยเบื้องต้นจะผลิตกว่า 20 ล้านขวด ครอบคลุมช่องทางจำหน่ายทั้งในร้านค้าทั่วไป ห้างค้าปลีกสมัยใหม่หรือโมเดิร์นเทรด รวมถึงร้านสะดวกซื้อชั้นนำทั่วประเทศ ซึ่งจะวางจำหน่ายตลอดเดือนสิงหาคมถึงกันยายน 2562 นี้ และส่วนหนึ่งถือเป็นแคมเปญเพื่อสังคมเพื่อร่วมต้อนรับเทศกาลวันแม่ปีนี้อีกด้วย

นอกจากนี้ บริษัทยังได้จัดทำคลิปวิดีโอ นำเสนอเรื่องราวของครอบครัว น้องเท็น หรือเด็กชายชัยภาส ด่านเกื้อกูล ที่หายไปตั้งแต่อายุ 11 ปี จนปัจจุบันอายุ 24 ปี เพื่อเผยแพร่ผ่านสื่อช่องทางออนไลน์อีกทางหนึ่ง รวมถึงใช้สื่อออฟไลน์ ตลอดจนการสื่อสารผ่านสื่อของบริษัททุกช่องทาง เพื่อให้พนักงานในเครือกว่า 50 บริษัทและตัวแทนจำหน่ายที่มีอยู่ในทุกจังหวัดทั่วประเทศร่วมกันสร้างการรับรู้และตระหนักถึงปัญหาเด็กหาย เพื่อให้เกิดการเฝ้าระวังป้องกันมากขึ้น

45667

นายเอกลักษณ์ หลุ่มชมแข ประธานมูลนิธิกระจกเงา กล่าวเพิ่มเติมว่า ปัญหาเด็กหายถือเป็นปัญหาสำคัญของสังคมไทย โดยพบว่าในปี 2559 มีเด็กหายจำนวน 418 คน พบแล้ว 387 คน ในปี 2561 หายไปจำนวน 309 คน พบแล้ว 265 คน และเดือนมกราคมถึงกรกฎาคม 2562 มีเด็กหายจำนวน 153 คน พบแล้ว 124 คน โดยเฉลี่ยในแต่ละปี สามารถติดตามเด็กสูญหายได้สำเร็จกว่า 90% และยังมีเด็กที่สูญหายไปนานกว่า 5 ปีและยังหาไม่พบประมาณ 1%

ดังนั้น โครงการ “คืนดวงใจให้แม่ return heart to home” จึงเป็นอีกหนึ่งความร่วมมือทางสังคมที่จะช่วยพาเด็กหายกลับสู่ครอบครัว เพราะเด็กทั้ง 5 คนที่มูลนิธิฯคัดเลือกมาก่อน ถือว่าเป็นกรณีที่ค่อนข้างยาก เพราะที่ผ่านมาใช้สื่อหลายประเภทช่วยกันตามหาก็ยังไม่พบ

“ขวดน้ำขวดหนึ่ง อาจช่วยพาเด็กกลับบ้านก็ได้ และน่าจะเป็นแรงบันดาลใจให้สังคมตระหนักถึงปัญหานี้”นายเอกลักษณ์กล่าว

Avatar photo