หุ้นเอเชียร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 6 เดือนครึ่ง วันนี้ (5 ส.ค.)ขณะเงินหยวนอ่อนค่าลงอย่างมาก ท่ามกลางความตึงเครียดในการทำสงครามการค้าระหว่างจีน กับสหรัฐที่พุ่งสูงขึ้น ทำนักลงทุนหันเข้าหาสินทรัพย์ที่มีความปลอดภัยอย่างพันธบัตร และทองคำ
ดัชนีนิกเคอิ ตลาดหลักทรัพย์โตเกียว ญี่ปุ่น เคลื่อนไหวล่าสุด ร่วงลง 496.29 จุด หรือ 2.35% มาอยู่ที่ 20,590.87 จุด ดัชนีฮั่งเส็ง ฮ่องกง ดิ่งลง 707.52 จุด หรือ 2.63% ที่ 26,211.06 จุด ดัชนีคอมโพสิตเซี่ยงไฮ้ ของจีน ลดลง 14.96 จุด หรือ 0.52% ที่ 2,852.87 จุด และดัชนีสเตรทไทมส์ สิงคโปร์ ลดลง 55.05 จุด หรือ 1.69% ที่ 3,206.06 จุด
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคมที่ผ่านมา ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ ตัดสินใจที่จะขึ้นภาษีนำเข้า 10% ต่อสินค้าจีนมูลค่า 300,000 ล้านดอลลาร์ ซึ่งจีนก็ประกาศที่จะตอบโต้กลับในเรื่องนี้
สถานการณ์ดังกล่าว ทำให้เงินหยวนร่วงลงไปต่ำกว่าระดับ 7 หยวนต่อดอลลาร์ ที่ 7.0177 หยวนต่อดอลลาร์ ซึ่งนักวิเคราะห์คาดว่า จะยิ่งทำให้เกิดความตึงเครียดทางการค้ามากขึ้น
นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาเหตุการณ์ประท้วงในฮ่องกง โดยกลุ่มผู้ประท้วงจำนวนมากวางแผนชัตดาวน์ฮ่องกงด้วยการปักหลักชุมนุมอย่างต่อเนื่องในวันนี้ หลังจากที่ได้เดินประท้วงตามท้องถนนในย่านเจิ้งกวนโอในเขตนิวเทร์ริทอรีส์ในวันอาทิตย์ พร้อมกับเชิญชวนให้ประชาชนออกมาร่วมการประท้วงครั้งใหญ่ในวันนี้
รายงานระบุว่า ผู้ประท้วงจำนวนมากที่เป็นพนักงานบริษัทเอกชนได้วางแผนที่จะลากิจหรือลาป่วยเพื่อเข้าร่วมการชุมนุมในวันนี้ โดยคาดว่าการประท้วงจะส่งผลกระทบต่อเส้นทางจราจรเป็นวงกว้าง รวมถึง การดำเนินงานที่สนามบิน โดยล่าสุด สายการบินคาเธ่ย์ แปซิฟิค ได้ประกาศยกเลิกเที่ยวบินกว่า 140 เที่ยวทั้งขาเข้าและขาออก และขอให้ผู้โดยสารเลื่อนการเดินทางที่ไม่จำเป็น
