Politics

นายกฯ เดือดซัดคนป่วนบึ้มกรุง ‘ชั่วร้าย-ใจร้าย-ใจดำ’

ที่โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงการลอบวางระเบิดในพื้นที่กรุงเทพมหานครว่า ขอให้เชื่อมั่นการทำงานของฝ่ายความมั่นคง โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ตำรวจ ขณะนี้กำลังดำเนินการสืบสวนสอบสวนผู้ต้องหา 2 คน ที่จับกุมได้ ทราบว่ามีผู้ที่เกี่ยวข้องกว่า 10 คน ขณะนี้ไม่ได้ตัดสาเหตุจูงใจใดทิ้งต้องตรวจสอบต่อไป ขอให้ใจเย็น เพราะมีผู้เกี่ยวข้องอีกกว่า 10 คน ต้องตามจับให้ได้ว่า สาเหตุมาจากอะไร ขอให้ใจเย็นๆ หากไปกดดันเจ้าหน้าที่ จะทำงานลำบากเรื่องเช่นนี้พร้อมที่จะเกิดขึ้น

“คนเราแตกต่างทางความคิดมากมาย ผมก็ยังไม่ได้มุ่งหมายว่า เป็นกลุ่มไหน ส่วนที่ พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก ระบุว่า เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ปี 2549 เป็นแค่เพียงการเปรียบเทียบกับเหตุการณ์ในอดีต ที่มีการยึดโยงกัน  มีส่วนที่คล้ายคลึงกัน ส่วนที่มีโอกาสที่กลุ่มการเมืองจะอยู่เบื้องหลังยังไม่ทราบ อย่าเพิ่งไปสรุปอะไร” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

ประยุทธ์88

เมื่อถามว่าเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ยังไม่ตัดเหตุการณ์ใดออก ถามถึงกรณีที่มารดาของผู้ต้องหา ต้องการทราบที่อยู่ของบุตรชาย พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า เป็นเรื่องปกติที่แม่ก็ต้องเป็นห่วงลูก ทั้งหมดก็เป็นไปตามวัตถุประสงค์พยาน หรือ กล้อง CCTV รวมถึงหลักฐานที่ตรวจสอบพบ เช่น ถุงเสื้อผ้าก็มีอยู่แล้ว ฉะนั้นต้องฟังทั้งสองทาง ทั้งเจ้าหน้าที่และผู้ต้องหาส่วนผู้บาดเจ็บได้ให้ทางกระทรวงสาธารณสุขเข้าไปดูแลแล้ว

“ผมถือเป็นการกระทำที่ชั่วร้าย ไม่ว่า ที่ใดก็ตามก็มีปัญหากันหมด โดยเฉพาะที่เกิดขึ้นกับประเทศไทยในห้วงเวลานี้ คนที่ดำเนินการหรือคนที่เกี่ยวข้อง ยังไม่อาจจะกล่าวได้ว่าเป็นใครแต่ถือว่าใจร้าย ใจดำ ที่ทำให้ประเทศเกิดความวุ่นวาย” นายกรัฐมนตรี กล่าว

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่าในส่วนการบูรณาการกล้อง CCTV นั้น ขึ้นอยู่กับการดำเนินการของเจ้าหน้าที่ ที่ผ่านมาใช้งานได้จนนำไปสู่การจับกุมผู้ต้องหา  ต่อไปจะให้เจ้าหน้าที่ตำรวจชี้แจงเป็นขั้นเป็นตอน เหตุการณ์ครั้งนี้ถือเป็นการบูรณาการครั้งแรก งานด้านการข่าว การดำเนินงาน การพิสูจน์หลักฐาน

431059

อย่างไรก็ตาม ไม่ได้กำหนดกรอบเวลาการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ เราไปบังคับไม่ได้ ต้องมองว่ามีตำรวจ  2 แสนคน เมื่อเทียบกับประชาชน 70 ล้านคนต้องช่วยกัน การเฝ้าระวัง ขณะนี้วางเจ้าหน้าที่ไว้ทุกจุดทุกพื้นที่ และความปลอดภัยไม่ใช่เรื่องของใคร แต่เป็นของประชาชนทุกคน

การลอบวางระเบิดครั้งนี้เกิดจากแรงจูงใจที่นายกฯ ดูแลทั้งทหารและตำรวจหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ไม่เกี่ยวกัน ตนก็คุยกับพี่น้องทุกคน รวมถึง พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม รวมถึงในส่วนของกระทรวงมหาดไทย และเจ้าหน้าที่ตำรวจ  ให้แนวทางไปกับตำรวจว่า ทุกอย่างต้องดูแลให้เกิดความน่าเชื่อถือ เชื่อมั่น ไม่ว่าจะทำอะไรก็ตาม ตนได้จัดคณะทำงาน ให้เกิดความชัดเจนยิ่งขึ้นในการสืบสวนสอบสวนคดีและเน้นย้ำว่าการให้ข้อมูลข่าวสารใดก็ตามที่จะทำให้เกิดการเข้าใจผิด หรือทำให้เกิดความไม่พอใจส่วนตัว ก็ขอให้เบาๆกันไว้บ้าง

นายกฯ จปร.5 8 62 1

เหตุจูงใจน่าจะมาจากพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.)ได้หาเสียงเอาไว้ว่า หากเลือกความสงบจบที่ “ลุงตู่”  พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ไม่เกี่ยวกัน ตนก็ไม่ได้เป็นคนพูด ใครจะเลือกใครเป็นเรื่องของการเมืองก็เลือกไป ซึ่งในช่วงนั้นตนก็พยายามที่จะไม่เข้าไปเกี่ยวข้องในการเลือกตั้งครั้งที่แล้วเนื่องจากตนยังเป็นนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)ไม่ไปก้าวล่าง ตนเห็นหลายพรรคก็หาเสียงกันทุกเรื่อง อย่าเอาประเด็นโยงกันไปมา แค่นี้ปัญหาก็เยอะพอสมควรอยู่แล้ว ไม่อยากให้บ้านเมืองสงบหรือไร คนที่ไม่ดีและดำเนินการที่จะทำให้เกิดผลกระทบร้ายแรงกับประเทศชาติก็ต้องถูกดำเนินการ

“ในฐานะที่ผมเป็น ผู้อำนวยการ รักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (ผอ.รมน.) ได้มีการบูรณาการการทำงาน และสั่งการเพิ่มเติมให้ ศูนย์ปฏิบัติการต่อต้านการก่อการร้ายสากล(ศตก.)รวมถึงเรื่องการข่าวในการประสานความร่วมมือระหว่างกัน กับประเทศเพื่อนบ้าน ก็ต้องดูแลให้มากขึ้นกว่าเดิมในการผ่านแดน ซึ่งคนไม่ดีก็มีจำนวนมาก”นายกรัฐมนตรี ระบุ

Avatar photo
ทีมบรรณาธิการข่าว The Bangkok Insight