“สวนดุสิตโพล” มหาวิทยาลัยสวนดุสิต เปิดเผยผลสำรวจ “ฝ่ายรัฐบาล – ฝ่ายค้าน เดินหน้าอย่างไร? จึงจะถูกใจประชาชน” โดยทำการสำรวจความคิดเห็นของประชาชนทั่วประเทศ จำนวนทั้งสิ้น 1,902 คน ระหว่างวันที่ 30 กรกฎาคม -3 สิงหาคม 2562 เพื่อสะท้อนความคิดเห็นของประชาชนที่สนใจติดตามข่าวการเมือง
หลังจากที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม แถลงนโยบายต่อสภาเสร็จสิ้นเป็นที่เรียบร้อย แต่กระแสวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับการอภิปรายทั้ง สส.ฝ่ายค้าน สส.ฝ่ายรัฐบาล และ สว. ยังเป็นประเด็นที่สังคมพูดถึงและต้องติดตามต่อไป โดยเฉพาะบทบาทการทำหน้าที่ของทั้งฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้านต่อการบริหารบ้านเมืองจะสามารถทำได้จริงตามที่เคยประกาศไว้หรือไม่ สรุปผลได้ ดังนี้
1.สิ่งที่ประชาชนเห็นว่า “ฝ่ายรัฐบาล”ต้องทำอย่างเร่งด่วน คือ
อันดับ 1 แก้ปัญหาเศรษฐกิจ ค่าครองชีพ ปากท้องของประชาชน 76.98%
เพราะเศรษฐกิจตกต่ำ ค่าครองชีพสูง รายได้ไม่เพียงพอกับรายจ่าย ค้าขายลำบาก ควรเร่งช่วยเหลือประชาชนอย่างจริงจัง ฯลฯ
อันดับ 2 ราคาพืชผลทางการเกษตรตกต่ำ 30.25%
เพราะเกษตรกรได้รับความเดือดร้อน มีหนี้สิน ขายไม่ได้กำไร ถูกเอารัดเอาเปรียบ อยากให้ช่วยพยุงราคา กระตุ้นการส่งออก ฯลฯ
อันดับ 3 การทุจริตคอรัปชั่น ประพฤติมิชอบ 27.43%
เพราะการทุจริตยังมีอยู่ในสังคมไทย เป็นปัญหาที่ฝังรากลึก แก้ไขยาก ทำให้ประเทศไม่พัฒนา ผู้ที่กระทำความผิดไม่เกรงกลัวกฎหมาย ฯลฯ
อันดับ 4 การบริหารประเทศ การใช้งบประมาณอย่างคุ้มค่า 26.64%
เพราะต้องการเห็นผลงานที่เป็นรูปธรรม ประเทศจะได้เจริญก้าวหน้า มั่นคง พัฒนาต่อเนื่อง ไม่สูญเสียงบประมาณโดยเปล่าประโยชน์ ฯลฯ
อันดับ 5 ปฏิรูปการศึกษา 16.14%
เพราะอยากให้ประเทศเจริญก้าวหน้า พัฒนาการศึกษาให้ทันสมัย ได้มาตรฐาน แข่งขันกับต่างชาติได้ ยังมีเด็กอีกมากที่ขาดโอกาส ฯลฯ
2.สิ่งที่ประชาชนเห็นว่า “ฝ่ายค้าน” ต้องทำอย่างเร่งด่วน คือ
อันดับ 1 ตรวจสอบการบริหารงานของรัฐบาล เพื่อให้การดำเนินงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น 51.88%
เพราะเป็นการคานอำนาจไม่ให้รัฐบาลมีอำนาจมากเกินไป เพื่อความโปร่งใสในการปฏิบัติหน้าที่ ลดปัญหาการทุจริต คอรัปชั่น ฯลฯ
อันดับ 2 ให้ความร่วมมือในการดำเนินงานของรัฐบาลที่เป็นประโยชน์ต่อส่วนรวม 49.57%
เพราะเป็นการนำความรู้ความสามารถมาช่วยกันพัฒนาประเทศ ร่วมมือร่วมใจกันแก้ปัญหาบ้านเมือง เน้นประโยชน์ของประชาชนเป็นหลัก ฯลฯ
อันดับ 3 ตรวจสอบการใช้งบประมาณ การทุจริตในโครงการต่าง ๆ 21.10%
เพราะรัฐบาลมีการกู้เงินและใช้งบประมาณจำนวนมาก อยากให้มีการตรวจสอบความโปร่งใส ป้องกันการทุจริต ประพฤติมิชอบ ฯลฯ
อันดับ 4 ผลักดันการแก้ไขรัฐธรรมนูญ และข้อกฎหมายต่าง ๆ 15.46%
เพราะอยากให้กฎหมายเป็นธรรม ไม่สองมาตรฐาน เป็นประโยชน์ต่อประชาชนมากที่สุด ป้องกันการหาประโยชน์จากช่องโหว่ของกฎหมาย ฯลฯ
อันดับ 5 การสร้างความสามัคคี ปรองดอง 10.55%
เพราะต้องการให้สถานการณ์บ้านเมืองสงบสุข ทุกคนรักและเข้าใจกัน รับฟังความเห็นที่แตกต่าง ทำให้บ้านเมืองเจริญก้าวหน้า ฯลฯ
3.สิ่งที่ประชาชนเห็นว่า “ฝ่ายรัฐบาล” ไม่ควรทำอย่างยิ่ง คือ
อันดับ 1 เอื้อประโยชน์ให้ตนเองและพวกพ้อง ขาดความซื่อสัตย์ในการปฏิบัติหน้าที่ 50.79%
อันดับ 2 ใช้งบประมาณอย่างสิ้นเปลือง ซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์เกินความจำเป็น 24.21%
อันดับ 3 การวางตนในสภาที่ไม่เหมาะสม ไม่เป็นแบบอย่างที่ดี 15.41%
อันดับ 4 ออกนโยบายที่กระทบต่อประชาชน เช่น การขึ้นภาษี การขึ้นราคาสินค้าและบริการ 14.78%
อันดับ 5 ไม่ดำเนินงานตามนโยบาย ไม่ทำตามสัญญาที่ให้ไว้ เช่น การขึ้นค่าแรง 7.23%
4.สิ่งที่ประชาชนเห็นว่า “ฝ่ายค้าน” ไม่ควรทำอย่างยิ่ง คือ
อันดับ 1 การทุจริต ทำให้ประเทศชาติเสียหาย 34.68%
อันดับ 2 การอภิปรายที่ไม่สร้างสรรค์ ไม่เคารพกฎระเบียบของรัฐสภา 33.62%
อันดับ 3 การค้านทุกเรื่องโดยไม่ฟังเหตุผล มีอคติ 27.02%
อันดับ 4 สร้างความแตกแยกในสังคม ปลุกระดมทางความคิด 14.47%
อันดับ 5 นำเสนอข้อมูลที่บิดเบือนจากความเป็นจริง ปล่อยข่าวเท็จ 11.28%
5. สถานการณ์บ้านเมืองขณะนี้ที่ประชาชนเป็นห่วงมากที่สุด คือ
อันดับ 1 ปัญหาปากท้อง ของแพง คนตกงาน ว่างงาน เงินไม่พอใช้ 79.64%
อันดับ 2 ความขัดแย้งทางการเมือง แตกแยก ขาดความสามัคคี 35.07%
อันดับ 3 การก่อเหตุร้าย วางระเบิด 22.06%
อันดับ 4 กฎหมายไม่มีความยุติธรรม เหลื่อมล้ำ 16.52%
อันดับ 5 เกษตรกรได้รับความเดือดร้อน ราคาผลผลิตตกต่ำ 14.25%