Politics

‘สภาทนายความฯ’ เตือน ‘นายกฯ’ กล่าวคำปฏิญาณไม่ครบ เสี่ยงทำรัฐบาลเป็นโมฆะ

สภาทนายความฯ” บี้รัฐบาลเร่งชี้แจงกรณี บิ๊กตู่กล่าวคำถวายสัตย์ปฏิญาณไม่ครบถ้วน เตือนหากปล่อยไว้นานจะเกิดปัญหา  อาจทำให้รัฐบาลชุดนี้เป็นโฆษะ บริหารประเทศต่อไม่ได้

67929652 2536645426367634 6138765961257287680 n
ขอบคุณภาพจากสมาคมทนายความแห่งประเทศไทย

วันนี้ (3 ส.ค.) นายนรินท์พงศ์ จินาภักดิ์ นายกสมาคมทนายความแห่งประเทศไทย ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก “สมาคมทนายความแห่งประเทศไทย” ว่า

กรณีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี นำคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถวายสัตย์ปฏิญาณเมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ด้วยถ้อยคำไม่ครบถ้วน ซึ่งบางคำขาดหายและมีเพิ่มเติมบางคำมาแทน ซึ่งไม่ตรงกับบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2560 มาตรา 161 ที่บัญญัติไว้ดังนี้

ก่อนเข้ารับหน้าที่ รัฐมนตรีต้องถวายสัตย์ปฎิญาณต่อพระมหากษัตริย์ด้วยถ้อยคำดังต่อไปนี้ “ข้าพระพุทธเจ้า (ชื่อผู้ปฏิญาณ) ขอถวายสัตย์ปฏิญาณว่า ข้าพระพุทธเจ้าจะจงรักภักดีต่อพระมหากษัตริย์ และจะปฎิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต เพื่อประโยชน์ของประเทศและประชาชน ทั้งจะรักษาไว้และปฎิบัติตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยทุกประการ”

1563277420680
ขอบคุณภาพจากสำนักข่าวไทย

จากข้อเท็จจริงที่ปรากฏในคลิปต่างๆ ยืนยันได้ว่าพล.อ.ประยุทธ์ กล่าวคำถวายสัตย์ปฏิญาณไม่ถูกต้องตามบทบัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญมาตรา 161 ปัญหาที่ตามมาจึงเกิดการถกเถียงกันอย่างมากจากกระแสสังคม นักวิชาการ และทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องออกมาแสดงความกังวลว่า การถวายสัตย์ปฏิญาณดังกล่าวชอบด้วยกฎหมายและมีผลสมบูรณ์หรือไม่ และมีผลกระทบทางการเมืองทำให้ ครม. เข้ารับทำหน้าที่โดยถูกต้องตามรัฐธรรมนูญหรือไม่

โดยหลักสากลและจารีตประเพณีในระบบประชาธิปไตยในอารยธรรมโลก การกล่าวคำสัตย์ปฏิญาณของผู้นำประเทศก่อนทำหน้าที่รัฐบาล มีความสำคัญเป็นเรื่องละเอียดอ่อน ซึ่งทุกๆ รัฐบาลจะต้องทำหน้าที่กล่าวคำถวายสัตย์ปฏิญาณตามข้อกำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญอย่างเคร่งครัดและถูกต้องทุกประการ ถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นและเงื่อนไขบังคับก่อนที่จะเข้าทำหน้าที่รัฐบาล ทั้งนี้เพื่อให้ประชาชนเกิดความเชื่อมั่นในการทำหน้าที่บริหารประเทศ

โดยเฉพาะในประเทศไทย รัฐธรรมนูญกำหนดให้ผู้ดำรงตำแหน่งองค์กรตามรัฐธรรมนูญต้องปฏิญาณตนก่อนรับหน้าที่ อาทิเช่น ตุลาการ ผู้พิพากษา รัฐมนตรี ซึ่งถือว่าได้ปฏิบัติตามกฎหมายสูงสุด คือกฎหมายรัฐธรรมนูญ กรณีพล.อ.ประยุทธ์ จะต้องกล่าวคำสัตย์ปฏิญาณให้ครบถ้อยคำ ซึ่งถือเป็นสาระสำคัญอันเป็นองค์ประกอบของการถวายสัตย์ที่กำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญ

ครม.

แต่พล.อ.ประยุทธ์ กลับถวายสัตย์ปฏิญาณโดยตัดถ้อยคำว่า ทั้งจะรักษาไว้และปฎิบัติตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยทุกประการ ออกไป ซึ่งถือเป็นสาระสำคัญในการที่นายกรัฐมนตรีไม่สามารถละทิ้ง ถ้อยคำสำคัญนี้ได้อย่างเด็ดขาด เพราะการปฏิญาณไม่ครบถ้อยคำที่บัญญัติไว้ จะมีผลกระทบทางการเมืองอย่างรุนแรง ถึงขนาดอาจทำให้ รัฐบาลชุดนี้เป็นโมฆะ ไม่สามารถทำหน้าที่บริหารราชการแผ่นดินได้ต่อไป ซึ่งเป็นผลพวงมาจากพล.อ.ประยุทธ์ ทำหน้าที่ไม่ถูกต้อง ตามรัฐธรรมนูญ ซึ่งถือเป็นเรื่องสำคัญ และอาจนำไปสู่ข้อกล่าวหาร้ายแรงในความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 และ มาตรา 157 ได้เช่นกัน

ที่สำคัญอีกประการหนึ่งคือ ทำให้ประชาชนเกิดความหวาดระแวงไม่เชื่อถือต่อผู้นำและ ครม. ชุดนี้ อีกทั้งจะเห็นได้ว่าจนถึงวันนี้ยังไม่มีผู้เกี่ยวข้องในรัฐบาลโดยเฉพาะรองนายกฝ่ายกฎหมายออกมาชี้แจงในเรื่องนี้แต่อย่างใด

ในเรื่องที่นายกรัฐมนตรีถวายสัตย์ปฏิญาณไม่ครบถ้วนตามรัฐธรรมนูญ ไม่ว่าจะเกิดด้วยความประมาทเลินเล่อหรือเจตนาหรือไม่หรือเกิดขึ้นด้วยเหตุผลใดก็ตามทางออกที่ดีที่สุดคือ ให้ผู้เกี่ยวข้องในรัฐบาล รีบออกมาชี้แจงและทำความเข้าใจในเรื่องนี้เพื่อให้สังคมได้รับทราบถึงเหตุที่เกิดขึ้น โดยออกมาแสดงความรับผิดชอบยอมรับความบกพร่องและรีบแก้ไขข้อบกพร่องโดยเร็ว เพราะหากยังปล่อยให้รัฐบาลบริหารราชการแผ่นดินเนิ่นนานไป ก็จะแก้ไขสิ่งต่างๆได้ยากและจะเป็นปัญหากับสิ่งที่รัฐบาลได้ทำลงไปก่อนหน้านี้แล้ว

Avatar photo