นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ถูกมองว่ารวบอำนาจ หลังกำกับดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) และกรมสอบสวนพิเศษ (DSI) เอง ว่า ในส่วนของ DSI เชื่อว่าคงจะมีการพูดคุยเพื่อปรับโครงสร้าง โดยต้องหารือร่วมกันระหว่างนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบยราชการ (ก.พ.ร.) และตนในฐานะรองนายกฝ่ายกฎหมาย
นายวิษณุ กล่าวว่านายกรัฐมนตรีตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับการทำงานของ DSI มาหลายเดือนแล้ว เพราะเห็นว่ามีตำรวจปฏิบัติงานอยู่มากเกินไป ต้องการได้นักกฎหมายที่ไม่ใช่จาก สตช. และ DSI ต้องดูแลคดีพิเศษเท่านั้น โดยมี 2 แนวทางในการพิจารณาคดีพิเศษ 1.อธิบดี DSI เป็นผู้พิจารณา 2. ให้คณะกรรมการคดีพิเศษเป็นผู้พิจารณา
“ทุกวันนี้กลับกลายเป็นว่าประชาชนไปร้องตำรวจ แล้วตำรวจเกิดเมินเฉย ช้า ไม่ได้ดั่งใจ จึงยกขบวนมาร้อง DSI บางทีมาเยอะเหมือนม็อบ มานอนอยู่หน้า DSI ถ้า DSI รับ บางครั้งก็จะทำให้เสียระบบ จึงต้องปล่อยให้เป็นหน้าที่ของตำรวจ หากตำรวจช้า ก็ต้องเล่นงานตำรวจ ไม่ใช่ช้าก็โอนมา DSI ข้อสำคัญ ต้องวางหลักเกณฑ์ให้ดี ที่ผ่านมาเรื่องนี้ทำให้ตำรวจและ DSI ขัดแย้งกัน” นายวิษณุ กล่าว
นายวิษณุ กล่าวว่านายกรัฐมนตรี ไม่ได้กำกับดูแล DSI ด้วยตัวเอง เพราะหวังจะใช้ดำเนินการในเรื่องคดีความต่างๆ โดยเฉพาะที่เกี่ยวกับการเมือง แม้นายกรัฐมนตรีไม่ลงไปคุมด้วยตัวเอง หากต้องการใช้อำนาจจริง ก็สามารถใช้ได้อยู่แล้ว แต่นายกรัฐมนตรีต้องการลงไปดู เพื่อให้การทำงานเป็นระบบมากขึ้น
“หลังจากนี้คาดว่า คดีความต่างๆ ที่จะเข้า DSI ต้องสกรีนมากขึ้น ที่ผ่านมา DSI ย่อหย่อน เนื่องจากชาวบ้านมาร้องขอ เมื่อ DSI ทำคดีได้เร็ว ตำรวจก็เกิดความน้อยใจ อะไรที่เป็นหน้าที่ของตำรวจ ตำรวจก็ต้องทำ คดีที่จะเป็นคดีพิเศษจะต้องเข้าเกณฑ์ หรือเป็นคดีที่มีอธิพล คดีสำคัญ ตำรวจไม่สามารถดำเนินการได้ โดยคดีพิเศษ อัยการสามารถลงมาสอบด้วยได้”
