บริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ของจีน “หัวเว่ย เทคโนโลยีส์” ประกาศรายได้ช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้ ยอดขายพุ่งมากกว่า 58,000 ล้านดอลลาร์ แรงหนุนจากการเติบโตในธุรกิจสมาร์ทโฟน และคว้าสัญญาเครือข่าย 5จีมาได้มากขึ้น
หัวเว่ย ซึ่งมีสำนักงานอยู่ที่เมืองเสิ่นเจิ้น ของจีน แถลงว่า บริษัทมีรายได้ช่วงครึ่งแรกของปีนี้ เพิ่มขึ้นราว 23% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน ทั้งนี้ หัวเว่ยมียอดขายอุปกรณ์โทรคมนาคมสูงสุดในโลก และเป็นเจ้าของแบรนด์สมาร์ทโฟนชั้นนำ ที่เป็นคู่แข่งสำคัญของเจ้าตลาดอย่าง ซัมซุง ของเกาหลีใต้ และแอปเปิ้ล ของสหรัฐ
การรายงานผลประกอบการล่าสุดของบริษัท ยังเกิดขึ้นหลังจากเมื่อกว่า 2 เดือนที่แล้ว รัฐบาลสหรัฐขึ้นบัญชีดำบริษัท ห้ามธุรกิจอเมริกันขายซอฟต์แวร์ และอุปกรณ์ต่างๆ ให้กับหัวเว่ย โดยไม่ได้รับอนุญาตจากทางการ
นายเหลียง หัว ประธานกรรมการบริหารหัวเว่ย กล่าวด้วยว่า การดำเนินงานของบริษัทยังเป็นไปราบรื่น แม้จะโดนสหรัฐสั่งควบคุมการทำธุรกิจก็ตาม และว่า ผลิตภัณ์หลักของบริษัทไม่ได้รับผลกระทบจากเรื่องนี้มากเท่าใดนัก
“การขึ้นบัญชีดำทางการค้า ส่งผลกระทบต่อการดำเนินงานของเราบ้าง แต่ผลกระทบอื่นๆ ในวงกว้างกว่านี้ เป็นเรื่องที่เราควบคุมได้”
นายเหลียง ยังระบุว่า กระแสเงินสดของบริษัทตลอดช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้ ยังดีอยู่ ซึ่งหัวเว่ยคาดว่า จะสามารถใช้เงินสดที่มีอยู่นี้ เดินหน้าพัฒนาผลิตภัณฑ์ในระยะยาวได้
อย่างไรก็ดี นายเหลียงยอมรับว่า บริษัทยังมีความท้าทายอยู่อีกมาก
“เห็นได้ชัดว่า เรายังคงมีความยากลำบากรออยู่ โดยในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ และปีหน้า เรายังจะเผชิญกับความยากลำบากเหล่านี้ ”
เขาบอกด้วยว่า แม้ยอดขายสมาร์ทโฟนของหัวเว่ย ในช่วงครึ่งปีแรก จะเพิ่มขึ้น 24% มาอยู่ที่ 32,000 ล้านดอลลาร์ แต่บริษัทก็เสียส่วนแบ่งนอกตลาดจีนไปเช่นกัน
