เป็นความร้อนแรงขึ้นมาอีกครั้งบนถนนการเมือง หลังจากแกนนำกลุ่ม 16 และแกนนำพรรคเพื่อไทยบางกลุ่ม ออกมาผสมโรงร่วมกับ “นายหน้า” พรรคพลังประชารัฐ ออกเดินสายสร้างพลังดูดอดีตส.ส.เข้าสังกัดพรรค
พฤติกรรมที่เป็นอยู่ทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักในหมู่อดีตส.ส. ทำนองมีการใช้ผู้มีอำนาจ เข้าไปเกลี้ยกล่อมให้อดีตส.ส.เข้าร่วมสังกัด โดยยกเหตุผลสารพัดอย่างเข้ามา “ล่อ” เพื่อสร้างอำนาจต่อรองให้ “พวกกระหาย” อยากเลือกตั้ง อยากได้กระสุนเปลี่ยนแนวความคิดจากพรรคเดิมเพื่อสังกัดพรรคใหม่
เอาเป็นว่าการเดินสายสุ่มคุยทั้งในที่สว่างและที่ลับ เรียกว่ามีมาอย่างต่อเนื่องในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา “นายหน้า” พรรคใหม่ ทำทุกวิธีทางเพื่อให้แกนนำกลุ่ม16 พรรคเพื่อไทย รวมทั้งพรรคเล็กพรรคน้อยอยู่ในสภาพ “เสือคล้อย” ไปแล้ว
แน่นอนเจรจาที่จะทำให้แกนนำการเมือง หลงเชื่อหรือคล้อยตาม สิ่งสำคัญมันอยู่ที่ปัจจัย “ค่าหัว”ที่จะต้องออกแรงสนับสนุน แม้บางกลุ่มจะหยิบข้อนโยบายมาเป็นข้ออ้างว่า จะต้องยอมรับนโยบายที่เสนอไปด้วย ฟังดูเหมือนเป็นข้ออ้างดูสวยงาม อาจเป็นเพียงข้อเสนอบางๆ ในทางการเมืองด้วยซ้ำ
แต่ปัจจัยค่าใช้จ่ายต่อหัว น่าจะเป็นเรื่องสำคัญกว่า บ้านเราไม่ว่าจะเลือกตั้งด้วยวิธีไหน ผู้สมัครจะเก่งอาจสักแค่ไหน ยังไงก็ต้องใช้เงินเป็นปัจจัยหลัก เพราะผู้สมัครแต่ละคนถือว่ามาภาระค่าใช้จ่ายทั้งสิ้น ขึ้นอยู่กับว่าจะใช้มากหรือน้อย ฐานเสียงดีอย่างไรก็ต้องใช้เงิน
แต่ปรากฎการณ์ที่กำลังจะเกิดขึ้นบนถนนการเมืองตอนนี้ กลับมีความคึกคักแบบแปลกๆ อาจเป็นเพราะห่างหายการเลือกตั้งมานาน หรือเป็นเพราะมีกระบวนการ “นายหน้า” สร้างพลังดูดเกิดขึ้น เลยทำให้อดีตส.ส.คึกคักขึ้นมา เพราะอดีตส.ส.ส่วนหนึ่งก็มี “ชนักติดหลัง” อยู่ไม่น้อย หากยอมสยบให้กับพลังดูดจากหนักอาจจะเป็นเบาก็เป็นได้
จริงๆ ถ้าหากจะประเมินผลดีผลเสียกับพลังดูดที่เกิดขึ้นเวลานี้ อาจจะเร็วเกินไป หลายคนบอกว่าช่วงนี้เป็นช่วงแห่ง “การต่อรอง” มากกว่า ฉะนั้นยังมีเวลาเปลี่ยนใจ หากไม่สมปราถนากับสิ่งที่ได้รับ ทำให้แกนนำหลายคนพูดตรงกันว่า ช่วงนี้ก็เหมือนกับหนุ่มสาวที่จีบกัน หากคบหาหรือพูดคุยแล้วไปด้วยกันไม่ได้ก็ “เลิกกัน”
เพราะในความเป็นจริงแล้วไม่ว่าจะเป็น แกนนำกลุ่ม16 แกนนำพรรคการเมือง พรรคเล็กพรรคน้อย ต่างพูดตรงกันว่า พวกเขาถูกร้องขอทั้งสิ้น ฉะนั้นการร้องขอไม่ได้หมายความว่าเปลี่ยนใจไม่ได้ ยังมีปัจจัยอีกมากมายที่ทำให้เปลี่ยนใจ สิ่งสำคัญคนที่จะชี้ชะตาคือ ประชาชน นั่นเอง
ว่ากันว่า ตอนนี้หลังจากมีรายการโปรโมชั่นผ่าน กระบวนการ “นายหน้า” ทำให้มีอดีตส.ส.ให้ความสนใจ หลั่งไหลเข้ามาพอสมควร ทำเอา “ นายหน้า” อยู่ในสภาพหน้าบาน เกิดความมั่นใจเสียเหลือเกินว่าการเลือกตั้งรอบหน้าชัยชนะอยู่ในกำมือ มองทะลุไปถึงว่าจะสามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ด้วยซ้ำ …โอแม่เจ้า!!
อีกนั่นแหละ..แว่วๆ มาว่า ตอนนี้เริ่มมีค่าตัวเกิดขึ้นแล้วใน อัตรา 30-50 ล้านบาทต่อหัว บางกลุ่มขยับสูงถึง 80 ล้านบาท แต่สถานการณ์อย่างนี้อยากจะบอกเหลือเกินว่าสุดท้ายแล้ว อาจจะได้แต่ชื่อ..แต่ตัวไม่มา ยังไงการเมืองบ้านเรายังต้องวัดกันยาวๆ
