ตลาดหุ้นเอเชียเช้าวันนี้ (31 ก.ค.) ปรับตัวลดลง ท่ามกลางความวิตกระลอกใหม่ในเรื่องสงครามการค้าระหว่างจีน กับสหรัฐ หลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ออกมาขู่จีนอีกครั้ง ขณะที่ความกังวลเกี่ยวกับการทำเบร็กซิท แบบไร้ข้อตกลง ยังสร้างแรงกดดันต่อเงินปอนด์อยู่
ดัชนีนิกเคอิ ตลาดหลักทรัพย์โตเกียว เคลื่อนไหวล่าสุดปรับขึ้น 220.32 จุด หรือ 1.01% ที่ 21,488.99 จุด ดัชนีฮั่งเส็ง ของฮ่องกง ร่วงลง 353.80 จุด หรือ 1.26% ที่ 27,792.70 จุด ดัชนีคอมโพสิตเซี่ยงไฮ้ ของจีนลดลง 23.22 จุด หรือ 0.79% ที่ 2,929.12 จุด และดัชนีสเตรทไทมส์ สิงคโปร์ ลดลง 10.07 จุด หรือ 0.30% ที่ 3,340.47 จุด
ขณะที่ ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดซื้อขายเมื่อคืนนี้ (30 ก.ค.) ที่ 27,198.02 จุด ลดลง 23.33 จุด หรือ 0.09% ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 3,013.18 จุด ลดลง 7.79 จุด หรือ 0.26% และดัชนีแนสแด็ก ปิดที่ 8,273.61 จุด ลดลง 19.71 จุด หรือ 0.24%
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวโจมตีรัฐบาลจีนว่าพยายามถ่วงเวลาในการเจรจาการค้า เพื่อรอผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในปีหน้า ความเคลื่อนไหวที่ทำให้นักลงทุนลดความคาดหวังเกี่ยวกับการบรรลุข้อตกลงการค้า
นักลงทุนยังจับตาผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งจะมีการแถลงในวันนี้ตามเวลาสหรัฐ ท่ามกลางการคาดการณ์ที่ว่า เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25%
ส่วนในตลาดเงินนั้น เงินปอนด์ ของอังกฤษ ยังคงเคลื่อนไหวอยู่ใกล้ระดับต่ำสุดในรอบ 28 เดือน ที่ 1,2164 ดอลลาร์ต่อปอนด์ ท่ามกลางความกังวลว่า อังกฤษจะออกจากสหภาพยุโรป (อียู) แบบไร้ข้อตกลง ส่วนค่าเงินสกุลอื่นๆ ไม่ค่อยผันผวนนัก โดยเงินเยนแทบไม่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ที่ 108.58 เยนต่อดอลลาร์ และยูโรที่ 1.1158 ดอลลาร์ต่อยูโร
ทางด้านราคาน้ำมัน ยังทรงตัวอยู่ใกล้ระดับสูงสุดในรอบเกือบ 2 สัปดาห์ โดยราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส อินเตอร์มีเดียท ที่ตลาดเอเชีย ขยับขึ้น 0.41% ที่ 58.29 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
