สมาคมสินเชื่อที่อยู่อาศัย คาดแอลทีวีดันคอนโดหลุดมือเข้าตลาดมือสองเพิ่ม กลุ่มลงทุน ซื้อเพื่อเช่ากระทบ ลูกค้ามีทางเลือกเพิ่ม ส่งผลทรัพย์สินรอขายจากธนาคารปีนี้แตะ 1.38 แสนล้านบาท ตัวเลขเอ็นพีแอลเดือนมิถุนายน 2562 ยังสูงอยู่ที่ 3.11% พร้อมคาดการณ์ยอดโอนกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัยปีนี้ 1.45 – 1.77 แสนหน่วย มูลค่ากว่า 5.27 แสนล้านบาท ลดลงทั้งปริมาณและมูลค่า หลังแบงก์คุมเข้มปล่อยสินเชื่อ
นายกิตติ พัฒนพงศ์พิบูล ประธานสมาคมสินเชื่อที่อยู่อาศัย เปิดเผยว่า ทรัพย์สินรอการขายโดยเฉพาะกลุ่มที่อยู่อาศัยมือสองจะไหลเข้าตลาดมากขึ้น อีกทั้งมีผู้ประกอบการรายใหม่เข้ามาทำตลาดมากขึ้น โดยเฉพาะนักลงทุนต่างชาติ ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการใช้มาตรการแอลทีวี รวมถึงราคาที่ลดลง 20-50% เมื่อเทียบกับที่อยู่อาศัยใหม่และยังมีทำเลที่ดีกว่า โดยปีนี้คาดว่าจะมีมูลค่าสินทรัพย์รอการขายของธนาคารพาณิชย์อยู่ที่ 138,511 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจาก 93,065 ล้านบาทในปี 2561 ซึ่ง 6 เดือนแรกของปีนี้มีมูลค่าอยู่ที่ 92,528 ล้านบาท
นอกจากนี้ผลจากมาตรการแอลทีวี ที่ส่งผลให้ที่อยู่อาศัยโดยเฉพาะคอนโดมิเนียมมือสองเข้ามาในตลาดเพิ่มขึ้น เป็นโอกาสของผู้ซื้อ และยังส่งผลกระทบต่อกลุ่มผู้ซื้อคอนโดมิเนียมเพื่อการลงทุนทั้งขายต่อและซื้อเพื่อปล่อยเช่า ที่จะทำให้โอกาสทำกำไรได้น้อยลง และปล่อยขายหรือปล่อยเช่าได้ยากขึ้น เนื่องจากผู้บริโภคมีทางเลือกมากขึ้นจากการเร่งระบายสต็อกของผู้พ้ฒนาโครงการ โดยเฉพาะในช่วงก่อน 1 เมษายน 2562 ก่อนแอลทีวีมีผลบังคับใช้ เป็นช่วงที่ผู้ประกอบการเร่งขายเร่งโอน ส่งผลให้ยอดให้สินเชื่อที่อยู่อาศัยในช่วง 6 เดือนแรกปี 2562 ที่ผ่านมา มีอัตราการเติบโตได้กว่า 38.2% และตลอดทั้งปีคาดว่าจะเติบ 5%
ขณะที่ยอดการโอนกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัยในทำเลกรุงเทพฯและปริมณฑล ในปี 2562 คาดว่าจะอยู่ที่ 145,300-177,600 หน่วย คิดเป็นมูลค่าประมาณ 431,900 – 527,900 ล้านบาท ลดลงจากปี 2561 ที่มียอดโอนกรรมสิทธิ์รวม 196,630 หน่วย มูลค่า 565,112 ล้านบาท ในจำนวนนี้เป็นบ้านสร้างใหม่ 123,664 หน่วยคิดเป็นสัดส่วน 63% และบ้านมือสอง จำนวน 72,966 หน่วย สัดส่วน37%
อย่างไรก็ตาม มาตรการแอลทีวี จะส่งผลดีต่อภาพรวมอสังหาริมทรัพย์ของไทย เนื่องจากจะทำให้ธนาคารพาณิชย์ คัดกรองลูกค้าที่มีศักยภาพมากยิ่งขึ้น เพื่อลดปริมาณหนี้เสีย หรือเอ็นพีแอล จากปัจจุบันที่ประเทศไทยมียอดเอ็นพีแอลอยู่ที่ 3.11 ซึ่งถือว่าสูงที่สุดประเทศหนึ่งในโลก โดยสมาคมฯ คาดว่า เมื่อนำมาตรการแอลทีวีมาใช้ หากทำให้เอ็นพีแอลของไทยลดลงมาเหลือประมาณ 2% จะส่งผลดีต่อเศรษญกิจโดยรวมและภาคอสังหาริมทรัพย์มากขึ้น
ด้านนายอลงกต บุญมาสุข เลขาธิการสมาคมสินเชื่อที่อยู่อาศัย เปิดเผยเพิ่มเติมว่า การนำมาตรการแอลทีวีมาใช้ ส่งผลให้เกิดการปรับตัวทั้งกลุ่มธนาคารที่ระมัดระวังการปล่อยสินเชื่อมากขึ้น มีการนำเทคโนโลยีใหม่ โดยเฉพาะการทำวิจัย และวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อหาลูกค้ากลุ่มเป้าหมายที่มีกำลังซื้อ ด้านผู้พัฒนาโครงการเองต้องให้ความสำคัญกับการทำวิจัยการตลาดมากขึ้น และพิจารณาต้นทุนเพิ่มขึ้น ทำให้จะได้เห็นโครงการที่ประหยัดต้นทุนมากขึ้น ขณที่ลูกค้าหรือผู้ซื้อเองก็ต้องมีการวางแผนการออมเงินที่ดีขึ้นหากต้องการซื้อที่อยู่อาศัยด้วยการขอกู้สินเชื่อจากธนาคาร
ล่าสุด สมาคมสินเชื่อที่อยู่อาศัย เตรียมจัดงาน NPA Grand Sale & Home Loan 2019 มหกรรมบ้านมือสองและสินเชื่อแห่งปี ระหว่างวันที่ 29 ส.ค. – 1 ก.ย. 2562 ณ อิมแพค เมืองทองธานี
