Economics

เล็งรื้อฟื้นเอฟทีเอ ‘ไทย-อียู’ หวังดันส่งออกเพิ่ม5%

เอฟทีเอ

 

นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เผยขณะนี้ได้เตรียมความพร้อมรับมือรื้อฟื้นการเจรจาความตกลงการค้าเสรี (FTA) ไทย-สหภาพยุโรป (อียู) โดยเน้นความสำคัญในการหารือภาครัฐ เอกชน และภาคประชาสังคมที่เกี่ยวข้องเพื่อประเมินประโยชน์ที่จะได้รับและสิ่งที่ต้องปรับตัว

โดยเตรียมใช้เวทีที่ไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมคณะทำงานด้านการค้าและการลงทุนระหว่างไทย-อียูในกลางปี 2561 ซึ่งเป็นเวทีหารือสำคัญระดับเจ้าหน้าที่อาวุโสที่จัดขึ้นเป็นประจำปีละครั้งที่ผลัดกันเป็นเจ้าภาพ เพื่อหารือแลกเปลี่ยนข้อมูลกับอียูเรื่องนโยบายและพัฒนาการด้านกฎระเบียบการค้าการลงทุนที่เกิดขึ้นในช่วงที่การเจรจาหยุดชะงักด้วย เพราะในช่วงดังกล่าวทั้งสองฝ่ายอาจมีการปรับปรุงกฎระเบียบด้านการค้าการลงทุนที่เกี่ยวข้องที่ควรจะต้องทราบความคืบหน้าของกันและกัน เพื่อเป็นข้อมูลประกอบการพิจารณาความเป็นไปได้ในการรื้อฟื้นการเจรจาภายหลังการเลือกตั้ง ซึ่งกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศจะเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหารือเพื่อเตรียมการเรื่องนี้

ทั้งนี้ สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 12 มี.ค.ที่ผ่านมา นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พาณิชย์ ได้ให้เอกอัครราชทูตแห่งสหภาพยุโรปประจำประเทศไทยเข้าพบหารือ และ น.ส.ชุติมา บุณยประภัศร รมช.พาณิชย์ ได้พบหารือกับภาคธุรกิจยุโรปในช่วงการประชุมรัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียน-กรรมาธิการยุโรปด้านการค้า ครั้งที่ 16 ระหว่างวันที่ 1-2 มี.ค.61 ณ สาธารณรัฐสิงคโปร์ ได้มีการหยิบยกเรื่องที่คณะมนตรีการต่างประเทศแห่งสหภาพยุโรปมีมติให้อียูฟื้นความสัมพันธ์และติดต่อทางการเมืองกับไทยได้ในทุกระดับ รวมถึงพิจารณาความเป็นไปได้ที่จะสานต่อการเจรจาเอฟทีเอไทย-อียูที่หยุดชะงักไปตั้งแต่ปี 2557 ถือเป็นสัญญาณที่ดีและภาคเอกชนยุโรปก็สนับสนุนเรื่องนี้และพร้อมที่จะช่วยผลักดันการกลับมาเจรจาเอฟทีเอระหว่างกัน

อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กล่าวอีกว่า หลังการเจรจาเอฟทีเอไทย-อียู หยุดชะงักลงในปี 2557 มูลค่าการค้าระหว่างไทยและอียูลดลง แต่ในปี 2560 มูลค่าการค้าระหว่างสองฝ่ายกลับมาเพิ่มดีขึ้น โดยในปี 2560 มูลค่าการค้าไทย-อียู อยู่ที่ 44,302.2 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 0.4% โดยไทยส่งออกไปอียู คิดเป็นมูลค่า 23,700.2 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 7.5% และนำเข้าจากอียู 20,602 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 3.9% จึงคาดว่า การเจรจาเอฟทีเอน่าจะช่วยส่งผลทำให้การค้ารวม และการส่งออกของไทยไปอียูเติบโตเพิ่มขึ้น

ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์ประเมินว่า การส่งออกจากไทยไปอียูน่าจะขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 5 ในปี 2561 ซึ่งในการประเมินดังกล่าว ได้คำนึงถึงปัจจัยสำคัญ เช่น การรื้อฟื้นความสัมพันธ์ไทย-อียู และการฟื้นตัวของเศรษฐกิจอียูและการออกจากอียูของสหราชอาณาจักรหรือ Brexit เป็นต้น

Avatar photo
Siree Osiri OHO BANGKOK