Politics

‘ศรีสุวรรณ’ เตือน ‘วิษณุ’ อย่าชี้นำศาล ปมคุณสมบัติ ‘บิ๊กตู่’

วันนี้ (27 ก.ค.)  นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย โพสต์ข้อความลงบนเฟซบุ๊ก เพจ “ศรีสุวรรณ จรรยา”  ว่า ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญ ได้ประชุมปรึกษาพิจารณาคดีเมื่อวันที่ 19 กรกฎาคมที่ผ่านมา  กรณีประธานสภาผู้แทนราษฎรส่งคำร้องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่าความเป็นรัฐมนตรีของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (5) และมาตรา 44 (15) เพราะเหตุเป็น “เจ้าหน้าที่อื่นของรัฐ” หรือไม่ โดยศาลได้สั่งรับคําร้องไว้พิจารณาวินิจฉัย และแจ้งให้ผู้ร้องทราบ พร้อมส่งสําเนาคําร้องให้ผู้ถูกร้องเพื่อยื่นคําชี้แจง แก้ข้อกล่าวหาต่อศาลรัฐธรรมนูญภายใน 15 วันนับแต่วันที่ได้รับสําเนาคําร้องแล้วนั้น

67657880 1381225462002262 8749539399240253440 n
ศรีสุวรรณ จรรยา

แต่การที่นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ได้ใช้โอกาสในรัฐสภาเมื่อคืนวันที่ 25 กรกฎาคมที่ผ่านมา เพื่ออธิบายแทน พล.อ.ประยุทธ์ โดยที่นายกรัฐมนตรียังไม่ได้สั่งให้ช่วยอธิบาย หลังจากที่นายวัน อยู่บำรุง อภิปรายยกประเด็นเรื่องคุณสมบัติของ พล.อ.ประยุทธ์ ขึ้นมาว่า อาจไม่มีคุณสมบัติในการเป็นนายกรัฐมนตรี เนื่องจาก พล.อ.ประยุทธ์ ในตำแหน่งหัวหน้า คสช. เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ

นายวิษณุได้อ้างคำพิพากษาของศาลฎีกาในคดีระหว่าง คสช. กับนายสมบัติ บุญงามอนงค์ว่า ในคำพิพากษาศาลฎีกาฉบับดังกล่าว ไม่มีส่วนไหนที่เขียนว่าหัวหน้า คสช. เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ ในคำพิพากษาดังกล่าว เพียงแต่ระบุว่า ตำแหน่งหัวหน้า คสช. เป็น “เจ้าพนักงาน” ดังนั้นแล้ว พล.อ.ประยุทธ์ ในตำแหน่งหัวหน้า คสช. จึงไม่ขาดคุณสมบัติในการเป็นนายกฯ เนื่องจากตอนที่เป็นแคนดิเดตนายกฯ “ไม่ได้เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ”

การชี้แจงของนายวิษณุ อาจถือได้ว่า เป็นการจัดการงานนอกสั่ง และก้าวล่วงการวินิจฉัยหรือชี้นำการทำหน้าที่ของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญโดยไม่สุจริต ซึ่งอาจเข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 มาตรา 38 วรรคสาม ประกอบ ม.39(3) ซึ่งมีโทษจําคุกไม่เกินหนึ่งเดือน หรือปรับไม่เกินห้าหมื่นบาท หรือทั้งจําทั้งปรับได้

67403098 1381225468668928 3357818394224099328 n
วิษณุ เครืองาม

“เรื่องคุณสมบัติของนายกรัฐมนตรีในกรณีนี้ เป็นคำร้องที่อยู่ในการพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญแล้ว คุณวิษณุเป็นนักกฎหมาย ควรที่จะรู้จักกาลเทศะ และวางตัว วางคำพูดให้เหมาะสม เพราะถ้าศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยเรื่องนี้ไปตามคำชี้แจงของคุณวิษณุ ก็จะเกิดการครหากับศาลขึ้นมาได้ ถ้าคุณวิษณุอยากจะวินิจฉัยเรื่องนี้เสียเอง ควรลาออกจากตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีไปเสีย แล้วมาสมัครเข้ารับการสรรหาเป็นตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ และเชื่อมั่นว่าจะผ่านการสรรหาและการลงมติเลือกของ ส.ว.ได้อย่างแน่นอน อย่ามัวแต่ทำตัวเป็นเนติบริกร จนทำให้หลักกฎหมายสั่นคลอน กลายเป็นที่ครหาของคนทั้งบ้านทั้งเมืองอยู่เลย”

Avatar photo