เมซุต โอซิล กองกลางอาร์เซน่อล ดวงแตกโดนโจรปล้นรถเอสยูวี เมอร์เซเดส จี-คลาส ในกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ แต่ เซอัด โคลาซินัช เพื่อนร่วมทัพ “ปืนใหญ่” โชว์ความใจเด็ดต่อสู้กับกลุ่มมิจฉาชีพที่พกมีดเป็นอาวุธ จนโจรหนีกระเจิง
เหตุการณ์สุดช็อกเกิดขึ้นกับ โอซิล และ โคลาซินัช ในขณะที่เดินทางมาด้วยรถหรูราคา 100,000 ปอนด์ (ราว 3,900,000 บาท) ที่ถนนโกลเดอร์ส กรีน โรด ด้วยกัน ก่อนจะถูก แก๊งมิจฉาชีพ 2 คนซึ่งขับรถมอเตอร์ไซค์สกูเตอร์ พร้อมใช้มีดเป็นอาวุธ ไล่ล่าเพื่อพยายามจี้ชิงรถของโอซิล
หลังจากที่รถจอดแล้ว โอซิล ซึ่งเป็นคนขับได้รีบกระโจนออกจากรถพร้อมกับวิ่งเข้าไปขอความช่วยเหลือในร้านอาหารตุรกีที่อยู่ใกล้กับที่เกิดเหตุ ในขณะที่ โคลาซินัช ไม่หวั่นโชว์ความใจเด็ดพุ่งเขาไปหาสองโจรที่มีอาวุธอยู่ในมือ แม้เจ้าตัวมีเพียงมือเปล่าๆ จากนั้นไม่นานพนักงานในร้านอาหารได้เข้ามาช่วย และวิ่งไล่ล่าผู้ก่อเหตุ
หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เดินทางมาถึงที่เกิดเหตุพร้อมกับสอบปากคำ โอซิล เกี่ยวกับเหตุการณ์ช็อกดังกล่าว โดย อาซูก้า อลินตาห์ พนักงานการเงินวัย 36 ปี ซึ่งเห็นเหตุการณ์ทั้งหมด เปิดเผยว่า “มันเป็นเหตุการณ์ที่ทั้งแปลกและน่ากลัวมาก รถของเขาจอดอยู่ตรงที่ว่างริมถนนพร้อมกับประตูที่เปิดออก”
“โอซิล ดูหวาดกลัวมากๆ ขณะที่มีหลายคนพยายามไล่ล่าชายคนที่ถือมีด เขาดูเหมือนว่าพยายามวิ่งเอาชีวิตรอด ฉันเห็นเขาหายเข้าไปในร้านอาหาร พวกเขาไม่ได้ถอดหมวกกันน็อก และใส่ชุดสีดำทั้งตัว สวมเสื้อแขนยาวทั้งๆ ที่อากาศร้อนมากๆ”
“พระเจ้า! รู้ไหมว่าจะเกิดอะไรขึ้นถ้าพวกเขาจับเขาได้ ฉันคิดว่าเขาอาจจะโดนฟัน และเห็นได้ชัดว่าเขาก็คิดแบบเดียวกันฉัน ทันทีที่พนักงานร้านอาหารเปิดหน้าต่าง และประตูร้าน พวกเขารีบเข้าไปช่วยทันที” ผู้เห็นเหตุการณ์ กล่าวทิ้งท้าย ทั้งนี้ 2 นักเตะอาร์เซน่อล ไม่ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด
ด้านโฆษกเจ้าหน้าที่ตำรวจสกอตแลนด์ยาร์ด เปิดเผยว่า “ตำรวจได้รับแจ้งเหตุที่ถนนแพล็ตต์ส เลน เอ็นดับเบิลยู 3 ในช่วงเวลาเกือบ 17.00 น. ของวันพฤหัสบดีที่ 25 กรกฎาคม ว่ามีการพยายามจะปล้น จากรายงานระบุว่าผู้ต้องสงสัยได้ขี่มอเตอร์ไซต์เพื่อที่จะพยายามปล้นชายคนที่เป็นผู้ขับขี่รถ”
“ผู้ขับขี่ซึ่งมีผู้โดยสารเดินทางมาด้วย ไม่ได้รับบาดเจ็บ และวิ่งเข้าไปหลบในร้านอาหารบริเวณถนนโกลเดอร์ส กรีน สถานที่ที่พวกเขาได้ให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สำหรับตอนนี้ยังไม่สามารถจับกุมผู้ต้องสงสัยได้ และเจ้าหน้าที่กำลังพยายามสืบสวนต่อไป”
