วันนี้ (25 ก.ค.) ธนาคารกสิกรไทยจัดงานสัมมนา “ทิศทางค่าเงินและอัตราดอกเบี้ยปี 2562” เพื่อพูดคุยเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจโลก ค่าเงิน และตลาดหุ้นครึ่งปีหลัง โดย “พีรพรรณ สุวรรณรัตน์” และ “วรันธร ภู่ทอง” ผู้ชำนาญการงานวิจัยเศรษฐกิจ และตลาดทุนอาวุโส ธนาคารกสิกรไทย คาดการณ์ ไทยยังคงน่าลงทุนในสายตาต่างชาติ เนื่องจากเงินบาทแข็งค่าทำให้เงินนอกไหลเข้ามากขึ้น
นอกจากนี้ ยังเป็นผลมาจากการที่เศรษฐกิจโลกในภาพรวม ได้รับผลกระทบจากสงครามการค้า ที่ส่งผลกระทบเป็นโดมิโน่ไปทั่วโลก รวมถึงเศรษฐกิจในยุโรปที่ยังไม่ฟื้นตัว ส่งผลให้ธนาคารกลางของแต่ละประเทศ รวมถึงธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ออกมาดำเนินการผ่อนคลายนโยบายการเงินมากขึ้น เพื่อพยุงเศรษฐกิจในประเทศ โดยเฉพาะการส่งสัญญานลดดอกเบี้ยนโยบาย ซึ่งจะทำให้ความเชื่อมั่นเงินดอลลาร์ลดลง
ไทยเองก็มีแนวโน้มจะคงดอกเบี้ยนโนบาย ทำให้นักลงทุนเลือกที่จะถือเงินบาท ที่ผันผวนตามปัจจัยโลกน้อยกว่าเงินสกุลอื่นๆ ในตลาดเกิดใหม่ และเอเชีย
อย่างไรก็ตาม นักวิจัยมองว่า เศรษฐกิจโลก และเศรษฐกิจไทยยังคงเผชิญปัจจัยลบต่อเนื่องในครึ่งปีหลังนี้ โดยไทยนั้น ปัญหาหนี้ครัวเรือนที่เพิ่มสูงขึ้น อาจทำให้เกิดปัญหาหนี้สะสมและหนี้เสียเพิ่มสูงขึ้น รวมถึงภาคการส่งออกที่หดตัวลงจากนโยบายกีดกันการค้าของสหรัฐผ่านห่วงโซ่การผลิตของจีน โดยเฉพาะสินค้ากลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ และอุปสงค์ในตลาดโลกที่ชะลอตัวลง
การลงทุนที่ชะลอตัวจากภาคเอกชน และการเบิกจ่ายภาครัฐที่ล่าช้าในครึ่งปีแรก ซึ่งเกิดจากความไม่แน่นอนในการจัดตั้งรัฐบาล ยังส่งผลต่อภาพรวมการฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่ช้าลง
กระนั้นก็ตาม คาดว่าการแถลงนโยบายของรัฐบาล ซึ่งน่าจะมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในระยะสั้นออกมา และภาพรวมการบริโภคภายในประเทศ ที่เริ่มเห็นแนวโน้มการขยายตัวจะส่งผลให้จีดีพีไทยในปีนี้เติบโตได้ที่ 3.3% ขณะที่ค่าบาทในสิ้นปีนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ 31 บาท
