Politics

อัยการถอนฟ้องม็อบอยากเลือกตั้ง 41 คน หลังคำสั่งหัวหน้าคสช.ถูกยกเลิก

ศาลแขวงดุสิตอนุญาตให้อัยการถอนฟ้องกลุ่มผู้ชุมนุมคนอยากเลือกตั้ง 41 คน ได้เนื่องจากคำสั่งหัวหน้า คสช.3/58 ข้อ 12 เรื่องห้ามชุมนุมถูกยกเลิกไปแล้ว ส่วนคดี UN62 เลื่อนตรวจพยานอีกครั้งเนื่องจากโจทก์ยังไม่ส่งพยานเอกสารและรอนำตัว”เนติวิทย์”มาฟ้องรวมนัดหน้า 7 ต.ค.2562

เมื่อวันที่ 23 กรกฏาคม 2562 ศาลแขวงดุสิตนัดฟังคำสั่งคดีผู้ชุมนุมคนอยากเลือกตั้งจำนวน 41 คน ที่ร่วมชุมนุมบนถนนราชดำเนินเมื่อ 10 ก.พ.2561 นัดครั้งนี้เดิมเป็นนัดสืบพยานโจทก์ แต่ทางฝ่ายอัยการ ซึ่งเป็นโจทก์ในคดีได้ยื่นคำร้องขอถอนฟ้องคดี

อัยการได้ระบุเหตุที่ขอถอนฟ้องว่า คสช.ได้ออกคำสั่งหัวหน้า คสช.ที่ 22/2561 เรื่องให้ประชาชนและพรรคการเมืองดำเนินกิจกรรมทางการเมือง ได้ยกเลิกคำสั่งหัวหน้า คสช.ที่ 3/2558 ข้อ 12 เรื่องห้ามชุมนุมทางการเมืองตั้งแต่ 5 คนขึ้นไปโดยไม่ได้รับอนุญาต ทำให้การกระทำของจำเลยไม่เป็นความผิดตามกฎหมายอีกต่อไป สิทธิในการนำคดีอาญามาฟ้องจึงระงับไป ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา 39(5)

safe image 1

อัยการจึงได้ส่งสำนวนคดีให้อธิบดีอัยการพิจารณาแล้วมีความเห็นให้ถอนฟ้อง แล้วได้ส่งต่อให้ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติพิจารณาซึ่งภายหลังได้มีความเห็นให้ถอนฟ้องเช่นกัน จึงได้ยื่นคำร้องขอถอนฟ้องในครั้งนี้

ศาลพิจารณาคำร้องของโจทก์แล้ว จึงมีคำสั่งให้อัยการถอนฟ้องได้และให้จำหน่ายคดีออกจากสารบบศาล และได้อธิบายให้จำเลยในคดีฟังว่าเมื่ออัยการได้ถอนฟ้องไปแล้วคดีนี้จะนำกลับมาฟ้องใหม่อีกไม่ได้อีก

 

ศาลแขวงดุสิต ยังมีนัดตรวจพยานหลักฐานคดีคนอยากเลือกตั้งชุมนุมที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ท่าพระจันทร์ และสหประชาชาติ (UN62) ส่วนผู้ชุมนุม 41 คนที่ถูกฟ้องด้วยข้อหามั่วสุมกันตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป กระทำการอย่างหนึ่งอย่างใดให้เกิดการวุ่นวายขึ้นในบ้านเมือง ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 215 ไม่เลิกมั่วสุม เมื่อเจ้าพนักงานสั่งให้เลิกตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 216 ฝ่าฝืนคำสั่งหัวหน้า คสช. ที่ 3/2558 ข้อ 12 ห้ามชุมนุมทางการเมืองตั้งแต่ 5 คนขึ้นไป และข้อหาตาม พ.ร.บ.ชุมนุมสาธารณะ พ.ศ.2558 ได้แก่ กีดขวางทางเข้าออกสถานที่ราชการและสถานศึกษา ตามมาตรา 8 (1) (3), มีการชุมนุมระหว่างมีคำสั่งห้ามชุมนุมฯ ตามมาตรา 11, ไม่ปฏิบัติตามหน้าที่ของผู้ชุมนุม ตามมาตรา 16 (1)(4)(7)(9) และไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขและคำสั่งของเจ้าพนักงานดูแลการชุมนุมสาธารณะ ตามมาตรา 19 ข้อหาตาม พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ.2522 มาตรา 108 และ 114 เรื่องการเดินขบวนและวางสิ่งของกีดขวางการจราจร

41954985 1832839560099223 7464266501722210304 o

ทั้งนี้ ทนายความเห็นว่าพยานหลักฐานที่มีการแถลงศาลไว้เมื่อนัดที่แล้วว่า ขอให้อัยการนำมาแสดงต่อศาลวันนี้ อัยการไม่ได้นำมาด้วยและยังยืนยันว่า จะตรวจพยานหลักฐานตามรายการดังกล่าว อัยการจึงขอกลับไปตรวจสอบสำนวนคดีอีกครั้งเนื่องจากเพิ่งได้รับช่วงคดีมาจากอัยการคนก่อน อีกทั้งอัยการแถลงว่าจะนำ เนติวิทย์ โชติภัทร์ไพศาล ฟ้องรวมเข้ามาในคดีนี้ด้วยอีกคนในนัดหน้า

ศาลให้เลื่อนนัดตรวจพยานหลักฐานออกไปอีกครั้งเป็นวันที่ 7 ต.ค.2562

คดีของกลุ่มคนอยากเลือกตั้ง RDN เป็นคดีชุมนุมทางการเมืองคดีที่ 11 ที่สิ้นสุดไปเนื่องจากคำสั่งหัวหน้า คสช.ที่ 22/2561 ทั้งนี้ในคดีส่วนผู้ชุมนุมคนอยากเลือกตั้งยังคงเหลือคดีการชุมนุมที่สกายวอล์คหน้าห้างมาบุญครอง (MBK39) ที่ยังต้องรอว่าอัยการจะมีสั่งฟ้องหรือไม่ คดีเดินขบวนและชุมนุมที่หน้ากองบัญชาการกองทัพบก(ARMY57) ที่ขณะนี้เริ่มสืบพยานไปแล้ว และการชุมนุมที่หน้ามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์และสหประชาชาติ(UN62) ซึ่งเป็นคดีที่มีการฟ้องข้อหาอื่นร่วมด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งข้อหาตามพ.ร.บ.ชุมนุมสาธารณะ พ.ศ.2558

ทั้งนี้ในส่วนของผู้ที่ถูกฟ้องว่าเป็นแกนนำการชุมนุมคนอยากเลือกตั้ง MBK39 RDN50 ARMY57 และ UN62 คดียังอยู่ในการพิจารณาของศาลทุกคดีเนื่องจากพวกเขาถูกฟ้องด้วยข้อหายุยงปลุกปั่น ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 116 ด้วยในทุกคดี

ขอบคุณภาพ-เรื่อง : ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน

Avatar photo
ทีมบรรณาธิการข่าว The Bangkok Insight