ยักษ์ใหญ่เทคโนโลยีจีน “หัวเว่ย” ประกาศปลดพนักงาน 600 ตำแหน่ง ในหน่วยงานสหรัฐ ผลจากการทำธุรกิจที่ลดลง หลังจากโดนรัฐบาลวอชิงตันคว่ำบาตรบริษัท และหน่วยงานในเครืออีก 68 แห่ง
หัวเว่ย แถลงวันนี้ (23 ก.ค.)ว่า การเลิกจ้างครั้งนี้ เกิดขึ้นกับหน่วยงานด้านการวิจัย และพัฒนาในสหรัฐ “ฟิวเจอร์เว่ย เทคโนโลยีส์” ที่มีฐานการดำเนินงานอยู่ในรัฐเท็กซัส ซึ่งหน่วยงานนี้มีการจ้างงานอยู่มากกว่า 750 ตำแหน่ง
“การตัดสินใจแบบนี้ ไม่เคยเป็นเรื่องที่ทำได้ง่ายๆ เลย โดยบริษัทจะเสนอแพคเกจชดเชย และผลประโยชน์ต่างๆ ให้กับพนักงานที่โดนเลิกจ้างในครั้งนี้” แถลงการณ์ ระบุ
ทั้งนี้ รัฐบาลประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ประกาศขึ้นบัญชีดำหัวเว่ย ซึ่งหมายความว่าบริษัทสหรัฐจะต้องได้รับใบอนุญาตก่อนจึงจะจัดหาเทคโนโลยีสหรัฐให้กับหัวเว่ยได้
นอกจากนี้ หัวเว่ย ซึ่งเป็นผู้นำในเทคโนโลยีไร้สายระบบ 5จี ยังโดนห้ามมีส่วนร่วมในการพัฒนาเครือข่าย 5จีในสหรัฐ ทั้งรัฐบาลทรัมป์ยังพยายามที่จะจูงใจให้ชาติพันธมิตรทำแบบเดียวกันด้วย โดยกล่าวหาหัวเว่ยว่า ทำงานให้กับรัฐบาลจีน ซึ่งหัวเว่ยปฏิเสธในข้อกล่าวหานี้
ในสัปดาห์นี้ หนังสือพิมพ์วอชิงตัน โพสต์ ของสหรัฐ ยังรายงานว่า หัวเว่ยแอบให้ความช่วยเหลือเกาหลีเหนือ สร้าง และดูแลเครือข่ายไร้สายเพื่อการพาณิชย์ในประเทศ โดยอ้างเอกสารภายใน และแหล่งข่าวที่อ้างตัวว่าเป็นผู้ดำเนินการในเรื่องนี้ว่า หัวเว่ยร่วมมือกับบริษัทแพนด้า อินเตอร์เนชันแนล อินฟอร์เมชัน เทคโนโลยี ของรัฐบาลจีน ในการทำโครงการต่างๆ ในเกาหลีเหนือ ตลอดช่วง 8 ปีที่ผ่านมา
หากเป็นจริงตามรายงานข่าว ก็หมายความว่า หัวเว่ย ที่ใช้เทคโนโลยีอเมริกันในอุปกรณ์ของบริษัท อาจจะละเมิดกฎข้อบังคับของสหรัฐ ด้านการควบคุมการส่งออกไปยังเกาหลีเหนือ