นักวิทยาศาสตร์เตือน เชื้อมาลาเรียสายพันธุ์ดื้อยาต้านมาลาเรีย 2 ชนิด กำลังแพร่กระจายมากขึ้นในเวียดนาม ลาว และพื้นที่ทางตอนเหนือของไทย หลังเกิดการแพร่ระบาดอย่างรวดเร็วจากกัมพูชา
ในการศึกษาจีโนม เพื่อติดตามการแพร่ระบาดของเชื้อมาลาเรียดื้อยานั้น นักวิทยาศาตร์พบว่า สายพันธุ์ที่รู้จักกันในชื่อ KEL1/PLA1 มีการพัฒนา และกลายพันธุ์ทางยีน ซึ่งอาจทำให้ดื้อยารักษาได้มากกว่าเดิม
“เราพบว่า เชื้อมาลาเรียดื้อยานี้แพร่ระบาดหนักขึ้นกว่าเดิม กลายมาเป็นสายพันธุ์ที่เข้ามาแทนที่เชื้อมาลาเรียสายพันธุ์ท้องถิ่น และกลายเป็นเชื้อมาลาเรียสายพันธุ์หลักที่พบในพื้นที่เวียดนาม ลาว และทางตอนเหนือของไทย” โรเบอร์โต อามาโต หนึ่งในคณะทำงานร่วมสถาบันเวลล์คัม แซนเจอร์ มหาวิทยาลัยอ็อกซ์ฟอร์ด และมหาวิทยาลัยมหิดล ระบุ
ทั้งนี้ องค์การอนามัยโลก (ฮู) ประเมินว่า ในปี 2560 ทั่วโลกมีผู้ติดเชื้อมาลาเรียเกือบ 220 ล้านคน ในจำนวนนี้มีผู้เสียชีวิต 400,000 ราย ซึ่งผู้ได้รับเชื้อ และเสียชีวิตส่วนใหญ่เป็นเด็กทารก และเด็กทารกในแถบซับ-ซาฮารา แอฟริกา
ตามปกติแล้ว มาลาเรียสามารถรักษาด้วยยาปฏิชีวนะได้ หากตรวจพบการติดเชื้อตั้งแต่เนิ่นๆ แต่สถานการณ์เชื้อดื้อยา กำลังเพิ่มมากขึ้นในหลายพื้นที่ทั่วโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ในการศึกษาครั้งก่อนหน้านี้ นักวิจัยพบว่า เชื้อมาลาเรียสายพันธุหนึ่ง ได้มีการพัฒนาตัวเอง และแพร่กระจายไปทั่วกัมพูชา ระหว่างปี 2550 – 2556 ส่วนผลวิจัยฉบับล่าสุดนี้ ที่ตีพิมพ์ในวารสารแลนเซ็ต อินเฟคเชียส ดีซีส พบว่า เชื้่อมาลาเรียกกำลังแพร่ระบาดข้ามพรมแดนมากขึ้น ซึ่งโอลิโว มิออตโต หนึ่งในคณะวิจัย ชี้ว่า ระดับการแพร่ระบาดของเชื้อมาลาเรียดดื้อยาในเอเชียตะวันออก ขยายตัวอย่างรวดเร็วจนน่ากังวลอย่างมาก
เขาย้ำว่า แม้จะยังมียาบางตัวที่สามารถนำมาใช้จัดการกับเชื้อมาลาเรียเหล่านี้ได้อยู่ แต่สถานการณ์ก็ยังมีความอ่อนไหวสูงมาก ซึ่งเน้นให้เห็นถึงความจำเป็นที่จะต้องเร่งแก้ไขในเรื่องนี้่
