Properties

‘เอสซีจี’ หันลุยซีแอลเอ็มวีเพิ่ม บุกพลังงานทดแทน ลดผลกระทบเศรษฐกิจไทย-สงครามการค้า

เอสซีจี เซรามิกส์ เผยครึ่งปีแรกไร้สัญญานบวกหนุนตลาด หลังธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ชะลอตัวกระทบตลาดเซรามิก ซ้ำด้วยสงครามการค้าที่กระเทือนภาพรวมเศรษฐกิจโลก เร่งปรับแผนหันลุยขยายตลาดซีแอลเอ็มวี เดินหน้าบุกพลังงานทดแทนดันรายได้เสริม

นายนำพล มลิชัย กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอสซีจี เซรามิกส์ จำกัด (มหาชน) หรือ COTTO ผู้ผลิตและจำหน่ายกระเบื้องภายใต้แบรนด์คอตโต้, โสสุโก้ และ คัมพานา เปิดเผยว่า ภาพรวมในครึ่งปีแรกที่ผ่านมาพบว่า ผู้บริโภคชะลอการซื้อและการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์เพื่อรอดูทิศทางของภาครัฐและสถานการณ์ในประเทศ ส่งผลกระทบต่อยอดขายและการเติบโตในตลาดเซรามิกให้อยู่ในภาวะทรงตัว

นำพล มลิชัย1
นำพล มลิชัย

นอกจากนี้ยังมีผลกระทบจากความขัดแย้งของประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่ ทำให้เศรษฐกิจโลกชะลอตัวและทำให้การแข่งขันจากสินค้านำเข้ารุนแรงมากยิ่งขึ้นมีผลกระทบต่อราคาขาย

ทั้งนี้ สะท้อนได้จากผลประกอบการครึ่งปีแรกของปี 2562 เอสซีจี เซรามิกส์ มีรายได้จากการขาย 5,802 ล้านบาท ลดลง 4% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากราคาขายเฉลี่ยต่ำกว่าปีก่อน ขณะที่กำไรสำหรับงวดอยู่ที่ 151 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 182% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยเป็นกำไรจากการขายที่ดินในนิคมอุตสาหกรรมหนองแค และส่วนหนึ่งเป็นผลจากการลดต้นทุนจากการดำเนินงานตามแผนการปรับปรุงและเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตได้ตามเป้าหมาย

สำหรับแผนงานในครึ่งปีหลังนี้ บริษัทจะเร่งขยายการส่งออกไปยังประเทศในกลุ่ม ซีแอลเอ็มวี เพิ่มมากขึ้น โดยครึ่งปีแรกสามารถเจาะตลาดและขยายฐานลูกค้าใหม่ได้หลายราย แม้ว่าการแข็งตัวของค่าเงินบาทจะมีผลกระทบต่อกำลังซื้อของผู้บริโภคก็ตาม ส่งผลให้ยอดขายในส่วนของตลาดซีแอลเอ็มวี เพิ่มขึ้น 10% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

เอสซีจี

“การแข็งตัวของค่าเงินบาทมีผลทำให้ศักยภาพในการส่งออกไปยังประเทศอื่น ๆ นอกจากนี้ลดลง และทำให้สถานการณ์การแข่งขันของสินค้านำเข้ารุนแรงมากขึ้นด้วย”นายนำพลกล่าว

 

พร้อมกันนี้ จะเดินหน้าพัฒนาโครงการพลังงานทดแทน เพื่อลดต้นทุนด้านพลังงานต่อเนื่อง โดยล่าสุด “โครงการระบบผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์แบบลอยน้ำและบนหลังคาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิตน้ำประปานิคมอุตสาหกรรมหนองแค” ได้รับรางวัลดีเด่น Thailand Energy Awards 2019 ด้านพลังงานทดแทน ประเภทโครงการที่ไม่เชื่อมโยงกับระบบสายส่งไฟฟ้า หรือ Off-Grid

โครงการระบบผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ มีการติดตั้ง 2 ระบบ คือ แบบบนหลังคาและแบบลอยน้ำ จุดเด่นอยู่ที่ระบบผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์แบบลอยน้ำ (Solar Floating) ซึ่งสามารถผลิตไฟฟ้าได้มากกว่าแบบบนหลังคา 9% และยังลดการระเหยน้ำในบ่อได้ 7% ส่งผลให้บริษัทลดการใช้ไฟฟ้าจากภายนอกได้ถึง 14% จากกำลังการติดตั้งทั้งสิ้น 160 กิโลวัตต์

โซลาร์เซลล์

 

ที่มาของโครงการดังกล่าวเกิดจากการมุ่งค้นหาพลังงานทดแทนที่ไม่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม โดยใช้พื้นที่ของสำนักงานนิคมอุตสาหกรรมหนองแคเป็นโครงการนำร่อง มีพื้นที่หลายจุดสำหรับติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ไม่ว่าจะเป็น พื้นที่บนหลังคาของตัวอาคาร บ่อน้ำด้านหลังสำนักงาน ปัจจุบันได้เปิดให้เป็นแหล่งเรียนรู้เรื่องโซลาร์เซลของชุมชนโดยรอบด รวมถึงเปิดให้บริการคำปรึกษาแนะนำ จำหน่ายและติดตั้งระบบผลิตกระแสไฟฟ้าจากพลังงานทดแทนประเภทต่าง ๆ โดยเฉพาะระบบโซลาร์เซล ให้กับหน่วยงานภายนอก เพิ่มเพิ่มรายได้อีกทางหนึ่ง

Avatar photo