CEO INSIGHT

‘สายชล​ เพยาว์น้อย’ ผู้สร้างตำนาน ‘บ้านใร่กาแฟ’ จากรายได้กว่า 100 ล้านพลิกติดลบ ‘แต่ไม่ถอย'(1)

หากเป็นคอกาแฟอายุ 35 ปีขึ้นไป เชื่อว่าน้อยคนนักที่จะไม่รู้จักแบรนด์  “บ้านใร่กาแฟ” ที่มีชื่อของ “สายชล เพยาว์น้อย” เคียงคู่กันมาจากการเป็นผู้สร้างตำนาน บ้านใร่กาแฟ และเรียกได้ว่าเป็นผู้บุกเบิกร้านกาแฟในปั๊มน้ำมัน เวลาผ่านไปจากจุดเริ่มต้นจนถึงวันนี้ รวมกว่า 21 ปี 7 เดือน บ้านใร่กาแฟ เริ่มหายไปจากความทรงจำ ซึ่งเบื้องหลังของการหายไปครั้งนี้ คนที่จะให้คำตอบ เป็นใครไปไม่ได้นอกจากผู้สร้าง หรือคนที่พนักงานบ้านใร่ทุกคนเรียกว่า “พ่อ” นั่นคือ สายชล เพยาว์น้อย

S 30785538

ผู้เขียนเคยได้สัมผัสเรื่องราว บ้านใร่กาแฟ ตั้งแต่ยุคเริ่มต้นในปี 2540 จนกระทั่งยุครุ่งเรือง และยังชื่นชมความเก่งของผู้ชายคนนี้เสมอมา เพราะจากเด็กบ้านนอกธรรมดา ฐานะทางบ้านไม่ได้ร่ำรวยมากมาย แต่สามารถสร้างแบรนด์ บ้านใร่กาแฟ จากความแตกต่าง ไม่ว่าจะเป็นดีไซน์ร้านที่ไม่เหมือนใคร จนถึงการตั้งราคากาแฟไทยท้าชนแบรนด์สตาร์บัคส์ และมียอดขายมากถึงระดับ 140 ล้านบาท ด้วยจำนวนสาขากว่า 100 สาขา

จนกระทั่งถึงวันที่ บ้านใร่กาแฟ โดนมรสุมซัดใส่อย่างไม่ตั้งตัว จากที่สร้างรายได้นับ 100 ล้านบาท กลับแปรเปลี่ยนต้องมาแบกหนี้ถึง 30 ล้านบาท!!

สายชล ถ่ายทอดเรื่องราวในวันนี้ให้ฟังว่า ถึงวันนี้ อายุของบ้านใร่กาแฟ 21 ปี 7 เดือน เริ่มจากสาขาแรก ที่ตั้งอยู่ในปั๊ม ปตท. คลอง 7 รังสิต-นครนายก ซึ่งตั้งชื่อเป็นสาขาที่ 9 แต่เป็นสาขาแรก จากนั้นก็ขยายสาขาที่ 8 ไล่ไปถึง 1 แล้วย้อนมาที่ 10 เพิ่มขึ้นไปเรื่อยๆ ด้วยความที่เรียนสถาปัตย์ เลยคิดต่าง เช่น บ้านใร่ ที่ใช้ไม้ม้วน ก็ทำให้คนอยากรู้ถึงที่มา

38390

สายชลเล่าเรื่อยๆ ว่า บ้านใร่กาแฟ ผ่านมาแล้ว 3 ยุค ในความคิดของเขาในฐานะผู้สร้าง เริ่มตั้งแต่แรก ถือเป็นยุคของการก่อร่างสร้างแบรนด์ ซึ่ง ณ ขณะนั้นตลาดร้านกาแฟที่มีสาขา หรือเชน เพิ่งเริ่มต้น เรียกได้ว่ายังไม่มีตัวเลขตลาดรวมของร้านกาแฟด้วยซ้ำ จากนั้นก็มาถึงยุคการสร้างแบรนด์ ที่มีการสร้างสัญลักษณ์ สร้างความต่าง สร้างความทรงจำ และสร้างคน ไม่ว่าจะสร้างเอกลักษณ์ความเป็นไทย การแต่งกลอน การคิดค้นสูตรกาแฟใหม่ๆ รวมถึงเครื่องดื่มใหม่และการแตกแบรนด์ใหม่ๆ ซึ่งถือเป็นยุครุ่งเรืองของบ้านใร่กาแฟก็ว่าได้

แต่เมื่อวันหนึ่งในปี 2548 เมื่อ ปตท. เปิดธุรกิจกาแฟของตัวเองภายใต้ชื่อ อเมซอน เหมือนฟ้าผ่าลงบ้านใร่กาแฟ เพราะต้องทะยอยออกจากปั๊มปตท.ทั้งหมด ถือเป็นมรสุมใหญ่และหนักรอบแรกที่ บ้านใร่กาแฟต้องเผชิญ เพราะเมื่อต้องออกมาหาทำเลนอกปั๊ม บ้านในร่กาแฟกัดฟันสู้ด้วยการขยายธุรกิจครั้งใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดสาขาขนาดใหญ่ที่เขาใหญ่ การยกบ้านน็อกดาวน์ขยายสาขารวด 40 ลงทุนไปกว่า 40 ล้านจากการกู้เงิน เพราะความคิดที่ว่า “ผมต้องให้ลูกน้องผมอยู่ให้ได้

S 30785539

ผมเป็นคนไม่เก็บเงิน คนนึกว่า มีเงินแยอะ แต่ลูกน้องจะรู้ ถ้าเก็บเงินคงไม่เป็นแบบนี้ ทุกวันนี้ด้วยความที่เป็นคนไม่เก็บเงินเลยเป็นแบบนี้ แต่ผมก็ยังเชื่อมั่นว่า บ้านใร่กาแฟอาจล้มเหลวด้วยนโยบายของคน แต่มันก็สำเร็จด้วยนโยบายของคนเช่นกัน

การออกมาสร้างอาณาจักรนอกปั๊ม ปตท. กลับไม่สดใสอย่างที่คาดหวังไว้ เพราะตลาดเปลี่ยนเร็วมาก มีคู่แข่งรายใหม่ในตลาดกาแฟรวมถึงอเมซอน และเครื่องดื่มใหม่ๆ เข้ามาแย่งลูกค้า โดยเฉพาะชาเขียวพร้อมดื่ม เพราะตอนนั้น สายชลหมายมั่นปั้นมือ จะสร้างชาใบหม่อนเป็นเครื่องดื่มดาวรุ่งประจำบ้านใร่กาแฟ แต่เมื่อชาเขียวแจ้งเกิด อัดโปรโมชั่นดุเดือด ทำให้ต้องพับแผนไป ซึ่งช่วงปี 2552-2553 ตลาดเครื่องดื่มเปลี่ยนไปชัดเจน พฤติกรรมลูกค้าเปลี่ยนไปลองเครื่องดื่มใหม่ๆ ทำให้หนี้สะสมมากขึ้น

เมื่อผลประกอบการไม่เป็นดังหวัง สาขาที่ไม่ทำกำไรก็ทะยอยปิดไป จนถึงปัจจุบัน บ้านใร่กาแฟมีสาขาเปิดให้บริการ 14 สาขา อาทิ ชลบุรี 4 สาขา สระบุรี บางบัวทองฯลฯ และสายชลกลับมาตั้งหลักรอบใหม่ที่บ้านเกิดคือ อำเภอหนองแซง จังหวัดสระบุรี บนที่ดิน 8 ไร่ ค่อยๆ ก่อร่างสร้างใหม่ เมื่อ 10 ปีก่อนหน้านี้ ทำให้ที่นี่เป็นทั้ง ออฟฟิศ พิพิธภัณฑ์บ้านใร่กาแฟ และโรงคั่ว เพื่อป้อนสาขาที่ยังเหลืออยู่ และเก็บเศษซากความทรงจำของบ้านใร่กาแฟในอดีตมาไว้เป็นพิพิธภัณฑ์ที่นี่

S 30785542

และแล้วก็เกิดมรสุมอีกครั้งกับบ้านใร่ เมื่อที่มั่นสุดท้าย โดยเฉพาะโรงคั่วกาแฟที่หนองแซง เกิดเพลิงไหม้เมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 2560 หลังจากเปิดมาได้เพียงปีครึ่งเท่านั้น ซึ่งครั้งนี้ สายชลยอมรับว่า ไม่ทำให้เขา “ซึมเศร้า” ก็ถือว่าดีมากแล้ว อีกอย่างต้องยอมรับว่า แบรนด์บ้านใร่เริ่มจางไปหลังจากเกิดปัญหาเสื้อสีทางการเมือง ที่กระทบต่อเศรษฐกิจและบ้านใร่กาแฟด้วย

นั่นเพราะ ภาระหนี้ที่ต้องแบกไว้ เงินหมุนเวียนที่ต้องจ่ายลูกน้อง และก่อนจะเกิดเพลิงไหม้ บ้านใร่กาแฟมีความหวังใหม่จากบริษัทใหญ่ประเทศสิงคโปร์ เข้ามาเจรจาธุรกิจเพื่อซื้อกิจการเพื่อดำเนินธุรกิจต่อ และตกลงกันได้ระดับหนึ่ง แต่เมื่อเกิดเหตุการณ์ไฟไหม้โรงคั่วกาแฟ ทำให้นักลงทุนรายนั้นยกเลิกแผนซื้อกิจการไป เนื่องจากต้องการธุรกิจที่สามารถรันต่อไปได้ทันที

มรสุมใหญ่ที่ซัดใส่ถึงสองครั้งสองคราว สายชล เปิดใจว่า ตอนไฟไหม้เพียง 1 ชั่วโมง โรงคั่ววอดเกือบทั้งหมด เขาต้องพิสูจน์ตัวเอง ด้วยการเอาตัวเองเดินในพื้นที่ไฟไหม้ทุกเย็น คิดว่าจะเป็นโรคซึมเศร้าไหม “เค้าบอกคนซึมเศร้าจะทำท่านี้ไม่ได้ (ทำท่ายกแขนเหยียดขึ้นมาข้างหน้าตั้งฉากลำตัว) ทำได้ไม่สั่น เราไม่ซึมเศร้า”

38386

ผ่านพ้นถึงวันนี้ บ้านใร่กาแฟ ในความคิดของสายชล มองว่า เป็นการเข้าสู่ยุคที่สาม คือยุคของการใช้แบรนด์ บ้านใร่กาแฟ ให้กลับมาอีกครั้ง อย่างเช่นการสร้างเป็นตลาดโรงคั่ว ถือเป็นการใช้แบรนด์ นั่นคือ ตลาดโรงคั่วบ้านไร่กาแฟ ซึ่งก็พบว่า มีคนรักบ้านใร่กาแฟ หรือเขาเรียกว่า “มิตรรักแฟนกาแฟ” ตามมากเยอะมาก ตั้งแต่การทำพิพิธภัณฑ์เมื่อ 20 ปีที่แล้ว สาขาแรกของบ้านใร่กาแฟก็ยกมาที่นี่ทั้งหลัง ชื่อบ้าน “เก้าแรก” เป็นความทรงจำที่มีค่าต่อจิตใจ

เราเรียกว่าที่นี่ว่า พื้นที่อันเป็นหัวใจขององค์การบ้านใร่กาแฟ เพราะทุกอย่างมันรวมอยู่ที่นี่ เราเคารพธงชาติ สวดมนต์ เข้าแถว มีการบรรยายให้คนที่สนใจฟังฟรี จนเปิดเป็นตลาดโรงคั่ว แต่ไม่เก็บค่าเข้าชม ให้เข้าชมฟรี เพราะเรารู้ว่าไม่ใช่ทุกคนที่มีเงิน อย่างคนในพื้นที่เค้าอยากมาดูให้เห็นแล้วดีใจที่เราอนุรักษ์ความเป็นท้องถิ่นไว้”

Avatar photo