Politics

กกต.ยกคำร้อง ‘หญิงหน่อย’ ปราศรัยหลอกลวงชาวเลย

“หญิงหน่อย” คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์  พ้นมลทิน กกต.ยกคำร้องปมถูกกล่าวหาทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง ปราศรัยหลอกลวงชาวเลย ส่วนภรรยา สันติ พร้อมพัฒน์ รอดข้อหาจ่ายเงินซื้อเสียง

55719297 2116307835114665 701424483637919744 o

สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) เผยแพร่คำวินิจฉัย กกต. เรื่องการเลือกตั้ง สส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย และแบบแบ่งเขตเลือกตั้งเขตเลือกตั้งที่ 1 และเขตเลือกตั้งที่ 3 จังหวัดเลย

ก่อนประกาศผลการเลือกตั้ง กกต.ได้รับคำร้องว่าคุณหญิงสุดารัตน์ ผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย ลำดับที่ 2 นายเลิศศักดิ์ พัฒนชัยกุล ผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส. เขต 1 จังหวัดเลย พรรคเพื่อไทย นางศุกร์ไกล จันทร์สว่าง ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง และนายสันติภาพ เชื้อบุญมี ผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.เขต 3 จังหวัดเลย เป็นผู้ถูกร้องที่ 1-4 ตามลำดับ ได้มีการกระทำอันเป็นการฝ่าฝืนพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.)ว่าด้วยการเลือกตั้ง พ.ศ.2561 มาตรา 73วรรคหนึ่ง(5) จากกรณีกล่าวหาคุณหญิงสุดารัตน์ หลอกลวง หรือจูงใจให้เข้าใจผิด ในคะแนนนิยมของผู้สมัคร หรือพรรคการเมือง เพื่อจูงใจให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งลงคะแนนให้แก่ตนเองหรือผู้สมัครอื่น

ต่อมาผู้ร้องได้ยื่นหนังสือขอถอนคำร้องสำหรับผู้ถูกร้องที่ 2 และผู้ถูกร้องที่ 4 แต่ กกต.ได้พิจารณาหนังสือขอถอนคำร้องแล้วเห็นว่า คำร้องมีรายละเอียดเกี่ยวกับข้อเท็จจริง หรือพฤติการณ์ และระบุพยานหลักฐานเพียงพอที่จะสืบสวน และไต่สวนต่อไปได้ จึงไม่อนุญาตให้ถอนคำร้อง

ในการพิจารณาข้อเท็จจริงจากรายงานการไต่สวนตลอดจนพยานหลักฐานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องประกอบกันแล้ว เห็นว่า เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ที่ 2562 คุณหญิงสุดารัตน์ได้ปราศรัยหาเสียงด้วยข้อความว่า “เขต 1 เลือก 1 ได้ 3 ได้นายกฯ ป๊อกเป็น ส.ส. เขต ได้ศุกร์ไกล เป็น ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ และได้สุดารัตน์เป็นผู้รับใช้”

ขณะปราศรัยหาเสียงดังกล่าว นายศุกร์ไกล ได้ถอนตัวจากการเป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งแบบบัญชีรายชื่อของพรรคเพื่อไทยไปแล้ว แต่คุณหญิงสุดารัตน์ ไม่ทราบข้อเท็จจริงและเมื่อทราบข้อเท็จจริงก็ได้ชี้แจงให้ประชาชนทั่วไปทราบ ดังนั้นการกระทำของคุณหญิงสุดารัตน์ จึงเป็นการกระทำโดยสำคัญผิดในข้อเท็จจริง ไม่มีเจตนาหลอกลวงหรือจูงใจให้เข้าใจผิดในคะแนนนิยมของผู้สมัครหรือพรรคการเมืองตามข้อกล่าวหา

ข้อเท็จจริงจึงฟังไม่ได้ว่าผู้ถูกร้องทั้งสี่คนกระทำการอันเป็นการฝ่าฝืน พ.ร.ป.เลือกตั้ง ส.ส.ตามคำร้องแต่อย่างใด กกต.จึงมีคำสั่งให้ยกคำร้อง

นอกจากนั้น ยังมีการเผยแพร่คำวินิจฉัย กกต. เรื่อง การเลือกตั้ง ส.ส.แบบแบ่งเขตเลือกตั้ง เขตเลือกตั้งที่ 3 จังหวัดเพชรบูรณ์ ซึ่ง กกต.ได้รับคำร้องและได้รับรายงานกรณีมีเหตุอันควรสงสัยว่า นางวันเพ็ญ พร้อมพัฒน์ ผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส. เขต 3 พรรคพลังประชารัฐ ภรรยานายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ได้กระทำการอันเป็นการฝ่าฝืน พ.ร.ป.เลือกตั้ง ส.ส. มาตรา 73วรรคหนึ่ง (1) จากกรณีถูกกล่าวหาว่านางวันเพ็ญได้ให้ทรัพย์สินแก่ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง เพื่อจูงใจให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งลงคะแนนให้แก่ตนเอง

กกต. ได้พิจารณารายงานการไต่สวนตลอดจนพยานหลักฐานอื่นๆ แล้ว เห็นว่าพยานหลักฐานมีน้ำหนักไม่เพียงพอที่จะรับฟังได้ว่านางวันเพ็ญ ได้กระทำการตามที่ถูกกล่าวหา เนื่องจากไม่มีพยานหลักฐานอื่นสนับสนุน พยานที่แจ้งเบาะแสไม่ได้รู้เห็นเหตุการณ์โดยตรง เพียงแต่ได้รับฟังมาจากการบอกเล่าของบุคคลอื่นว่ามีการแจกเงิน โดยไม่มีพยานหลักฐานยืนยันว่ามีการกระทำดังกล่าว

ดังนั้น ข้อเท็จจริงจึงฟังไม่ได้ว่านางวันเพ็ญกระทำการอันเป็นการฝ่าฝืน พ.ร.ป.เลือกตั้ง ส.ส. ตามข้อกล่าวหาแต่อย่างใด กกต.จึงมีคำสั่งให้ยกคำร้อง

Avatar photo