ดร.รวีวรรณ ภูริเดช เลขาธิการสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) กล่าวระหว่างการเป็นประธานในพิธีเปิดกิจกรรมการประชุมวิชาการ สผ. ประจำปี 2562 ว่า การขับเคลื่อนงานด้านทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม มีความสำคัญต่อการพัฒนาเมือง และประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การปรับปรุง พ.ร.บ. ส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมฉบับใหม่ หรือเรียกได้ว่าเป็น พ.ร.บ. ส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมฉบับที่ 2 ซึ่งได้ผ่านความเห็นจากสภา และได้ลงพระราชกิจจานุเบกษาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ส่วนที่ดำเนินการปรับปรุงแก้ไขหลักๆ คือในด้านของ EIA ซึ่งแต่เดิมจะไม่มีบทลงโทษ แต่ปัจจุบันจะเน้นในเรื่องของการบังคับใช้ให้ดำเนินการตามมาตรการที่กำหนดไว้ไม่ว่าจะเป็นมาตรการระยะก่อสร้าง มาตรการระยะดำเนินการ รวมทั้งเรื่องของมาตราการป้องกันผลกระทบสิ่งแวดล้อม ตลอดจนมาตรการติดตาม ตรวจสอบคุณภาพสิ่งแวดล้อม
ดร. รวีวรรณ ยังกล่าวถึงเรื่องของบทลงโทษในด้านของการก่อสร้างไปก่อน ที่มีความเข้มงวดมากขึ้นมีการปรับโทษเป็นรายวัน วันละไม่เกิน 100,000 บาท พร้อมกำหนดให้เจ้าของโครงการจะต้องส่งรายงานการตรวจสอบให้กับทางทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัด (ทสจ.) ตามแต่ละที่ที่โครงการนั้นๆ อยู่ เพื่อให้ทาง ทสจ. ทราบเป็นจุดแรกว่าโครงการนั้นเป็นอย่างไร และเป็นไปตามข้อกำหนดหรือไม่ หลังจากนั้นจะดำเนินการส่งให้กับทางสผ.ดำเนินการต่อไป
แต่ใน พ.ร.บ.ฉบับใหม่นี้ได้มีการกำหนดหน่วยที่ได้รับมอบอำนาจจากทางสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม(สผ.)เพื่อทำหน้าที่พิจารณารายงาน EIA ที่จังหวัดนั้น ๆ เลย ไม่ต้องส่งกลับมาที่ สผ. อีก
นอกจากนี้ยังมีการจัดทำแอพ Smart EIA ผ่านทางมือถือเพื่อให้ประชาชนทั่วไปและเจ้าของโครงการ สามารถที่จะตรวจสอบสถานภาพของโครงการและรายละเอียดของโครงการผ่านทางแอพ Smart EIA ได้อีกด้วย
อย่างไรก็ตาม ในเวทีสัมมนาวิชาการ ผู้ทรงคุณวุฒิ จากทั้งภาครัฐ และเอกชนได้นำเสนอการดำเนินงาน และความสำคัญ ตลอดจนความสำเร็จต่องานสิ่งแวดล้อม ที่ในแต่ละภาคส่วนได้ดำเนินงานและขับเคลื่อน ซึ่งทิศทางที่ทั่วโลกตื่นตัวคือ การรักษาสมดุลของทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อมเป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้การใช้ชีวิตของคนในชุมชน รวมถึงคนเมือง สามารถรักษาสมดุลร่วมกันได้
