COLUMNISTS

สาเหตุที่ยีราฟคอสั้นต่อต้านการเปลี่ยนแปลง

Avatar photo
Consulting Partner สลิงชอท กรุ๊ป
2154

จริง ๆ แล้วคนไม่ได้ต่อต้านการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นในองค์กร แต่ต่อต้านผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับตัวเขาเองต่างหาก

ชาลส์ ดาร์วิน บิดาแห่งวิชาวิวัฒนาการ บอกไว้ตั้งแต่ศตวรรษที่ 19 แล้วว่า “เผ่าพันธุ์ที่จะอยู่รอดบนโลกใบนี้ได้ไม่ใช่เผ่าพันธุ์ที่แข็งแรงกว่าใคร แต่ต้องเป็นเผ่าพันธุ์ที่ปรับตัวได้ดีกว่าใคร”

ยีราฟที่คอยาวเท่านั้นจึงจะสามารถแย่งกินใบไม้เป็นอาหารได้ดีกว่าพวกที่คอสั้น และจะถ่ายทอดพันธุกรรมเหล่านี้ไปยังลูกหลาน จึงไม่แปลกอะไรที่พวกยีราฟคอสั้นมีอันต้องจากโลกนี้ไป

giraff

มาถึงศตวรรษที่ 21 ไม่มีใครอยากเป็นยีราฟคอสั้น ทุกคนต่างรู้ดีว่าต้องเดินหน้าเข้าสู่สถานการณ์ของโลกที่แตกต่างไปจากเดิม ไม่ใช่แค่ต้องปรับตัว แต่ต้องปรับตัวให้เร็วที่สุด ถึงจะเอาตัวรอดได้

แม้รู้ทั้งรู้ คนส่วนหนึ่งก็ยังคงหวั่นไหวที่จะปรับเปลี่ยนจากสิ่งที่เคยทำ มาทำในสิ่งที่ไม่คุ้ยเคย ไม่ใช่เพราะไม่รู้ถึงความจำเป็น แต่เพราะการเปลี่ยนในแต่ละครั้งมันมีผลโดยตรงต่อตัวเขา เพราะทุกครั้งที่มีการเปลี่ยนแปลงย่อมนำไปสู่ความเจ็บปวด ตั้งแต่ระดับเล็กน้อยคืออึดอัด จนถึงระดับสูงสุดคือทุกข์ทรมาน

ดังนั้นแผนการปรับเปลี่ยนองค์กรหรูๆ อาจสวยแต่รูปจูบไม่หอม เพราะคนส่วนหนึ่งไม่เล่นด้วย ผู้นำการเปลี่ยนแปลงจึงจำเป็นต้องช่วยให้เขาเหล่านั้นหลุดออกมาจากอดีต ด้วยการเข้าไปนั่งในหัวอกพวกเขา รับทราบความกังวลของเขา แล้ววิเคราะห์สาเหตุว่า อะไรที่ทำให้เขากลัว

คนที่ต่อต้านการเปลี่ยนแปลงก็คล้ายกับยีราฟคอสั้นที่ไม่ยอมปรับเปลี่ยนตัวเอง ไม่ทำอะไร ทั้ง ๆ ที่รู้ว่าต้องตายในไม่ช้า

แต่เขาก็คงมีเหตุผลของเขา ซึ่งไม่หนีไปจาก 2 สาเหตุหลัก คือ RISK กับ LOSS

กลัวความไม่แน่นอน (Perceived Risk)

ไม่รู้ว่าหากเปลี่ยนแล้วจะมีความเสี่ยงอะไรบ้าง ซึ่งจะสะท้อนออกมาในรูปแบบต่างๆ ทั้งท่าที คำพูดและความรู้สึก เช่น แบบเดิมดีอยู่แล้ว ถ้าเปลี่ยนแล้วแย่ลงใครรับผิดชอบ (Status Quo) เปลี่ยนแล้วจะดีกว่าเดิมจริงเหรอ ยังไม่ค่อยไว้ใจ (Distrust) ฟังแล้วงง เข้าใจไม่ตรงกัน (Misunderstanding) ต้องเรียนรู้อะไรใหม่ ๆ อีกหรือเปล่า (New Skills) ถ้าความรู้ความสามารถไม่ถึงจะเกิดอะไรขึ้น (Lack of Competence) ทำไมต้องเปลี่ยนตอนนี้ กำลังยุ่ง มีเรื่องอื่นต้องทำเยอะ (Timing) เป็นต้น

กลัวสูญเสีย (Perceived Loss)

มีอะไรบ้างที่ต้องขาดหายไปหากมีการเปลี่ยนแปลง เช่น สูญเสียอำนาจหน้าที่ (Authority or Control) สูญเสียความมั่นคงในการทำงาน (Job Security) สูญเสียเวลาส่วนตัว (Personal Time) สูญเสียสถานภาพทางสังคม (Status or Social Standing) เป็นต้น

ผู้นำการเปลี่ยนแปลงควรรู้ว่าอะไรคือสาเหตุที่แท้จริง และต้องแยกแยะให้ได้ว่าเขา RISK หรือ LOSS อะไร หรือมีปัญหาทั้งสองอย่าง จะได้ช่วยให้พวกเขาหลุดพ้นจากความกลัวทั้งปวงได้ตรงประเด็น และเร็วขึ้น โดยไม่ต้องเสียเวลาสาธยายในเรื่องที่ไม่ใช่ความกังวลของเขา เพื่อช่วยให้ยีราฟคอสั้น คอยาวได้ซะที