คณะกรรมาธิการการค้ารัฐบาลกลางสหรัฐ (เอฟทีซี) อนุมัติข้อตกลงไกล่เกลี่ยคดีมูลค่าราว 5,000 ล้านดอลลาร์ กับเฟซบุ๊ก กรณีอื้อฉาวเคมบริดจ์ อนาไลติกา เมื่อปี 2561
หนังสือพิมพ์วอลล์สตรีท เจอร์นัล รายงานอ้างแหล่งข่าววงในว่า ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา กรรมาธิการเอฟทีซีมีมติ 3 ต่อ 2 อนุมัติข้อตกลงยอมความกับยักษ์ใหญ่โซเชียลมีเดียรายนี้ โดยที่กรรมาธิการฝั่งรีพับลิกันให้การสนับสนุนข้อตกลง ส่วนฝั่งเดโมแครตคัดค้าน
หลังจากผ่านการอนุมัติแล้ว เรื่องนี้จะถูกส่งต่อไปให้กับฝ่ายคดีแพ่งของกระทรวงยุติธรม แต่ยังไม่ชัดเจนว่า จะต้องใช้เวลานานเท่าใด กว่าการดำเนินการในเรื่องนี้จะแล้วเสร็จ
ค่าปรับดังกล่าวถือเป็นการสั่งปรับขนาดใหญ่สุดของเอฟทีซีต่อบริษัทเทคโนโลยี นับแต่ที่เคยสั่งปรับกูเกิลจำนวน 22.5 ล้านดอลลาร์ เมื่อปี 2555 ในเรื่องด้านการรักษาความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้งาน และมูลค่าการปรับครั้งนี้ คิดเป็นสัดส่วนราว 9% ของรายได้เฟซบุ๊กเมื่อปี 2561
แหล่งข่าวคาดการณ์ด้วยว่า การไกล่เกลี่ยคดีครั้งนี้ จะทำให้ภาครัฐมีความเข้มงวดมากขึ้นในการควบคุมวิธีการปฏิบัติของเฟซบุ๊กที่มีต่อความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้งานแพลตฟอร์มของบริษัท
อย่างไรก็ดี ซีเอ็นบีซี รายงานว่า ข้อตกลงไกล่เกลี่ยคดีนี้ เรียกเสียงวิจารณ์อย่างมากจากสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.)และสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ ที่ระบุว่า เมื่อพิจารณาจากการที่เฟซบุ๊กมีประวัติเรื่องการละเมิดความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้งานมาหลายครั้งแล้วนั้น จึงควรที่จะให้มีการปฏิรูปโครงสร้างพื้นฐานในการดำเนินงานของบริษัทด้วย
ทั้งส.ว. บางรายยังเห็นว่า อาจจะเวลาที่สภาคองเกรสจะต้องเข้าไปแทรกแซง หากเอฟทีซีไม่สามารถ หรือไม่ต้องการที่จะดำเนินการอย่างเหมาะสม เพื่อปกป้องความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้งานโซเชียลมีเดีย
