Economics

‘ไพรินทร์’ คอนเฟิร์ม ‘แลกหนี้ทางด่วน’ ถูกต้องตามมติ ครม.

“ไพรินทร์” แถลงข่าวคอนเฟิร์ม มติบอร์ด กทพ. กรณีขยายสัมปทานแลกหนี้ “ค่าโง่ทางด่วน” ถูกต้องตามมติ ครม. ส่วนที่ส่งเรื่องกลับ เพราะต้องดูข้อกฎหมายให้ชัดเจน ก่อนโยนรัฐบาลใหม่พิจารณาต่อ

DSC 6381

วันนี้ (12 ก.ค.) นายไพรินทร์ ชูโชติถาวร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดแถลงข่าวถึงกรณีที่หลายฝ่ายออกมาคัดค้านมติคณะกรรมการการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (บอร์ด กทพ.) ที่เห็นชอบให้ขยายสัญญาสัมปทานทางพิเศษ (ทางด่วน) ให้บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BEM อีก30 ปีเพื่อแลกกับการยุติข้อพิพาทว่า

ปัจจุบัน กทพ. มีปัญหา 2 ข้อคือ รายได้ไม่เติบโตตามเป้าหมาย เนื่องจากไม่มีการขยายทางด่วนมากว่า 30 ปี และมีปัญหาถูก BEM ซึ่งเป็นผู้รับสัมปทานฟ้องร้อง 2 คดี คือ คดีไม่ขึ้นค่าผ่านทางและสร้างทางด่วนโทล์เวย์แข่งขันซึ่งทั้ง 2 คดี มีมูลหนี้ฟ้องร้องกว่า 1 แสนล้านบาท 

ทางด่วน

โดยขณะนี้คดีสร้างทางด่วนแข่งขันยุติแล้ว ซึ่งศาลปกครองสูงสุดสั่งให้ กทพ. ชดใช้ 6 พันล้านบาท ส่วนคดีไม่ขึ้นค่าผ่านทางยังอยู่ในขั้นตอนของศาล

เบื้องต้นรัฐบาลได้นำปัญหาของ กทพ. เข้าหารือใน ครม. ซึ่ง ครม. มีมติให้ กทพ. ไปแก้ปัญหาด้วยการเจรจากับ BEM เพื่อยุติข้อขัดแย้ง แต่ก็มีเงื่อนไขกำหนดไว้ว่า กทพ. จะต้องไม่จ่ายชดใช้มูลหนี้ฟ้องร้องเป็นเงิน ที่สำคัญประชาชนและพนักงาน กทพ. จะต้องได้ประโยชน์จากผลการเจรจาและต้องมีการยุติข้อพิพาททั้ง 2 คดี 

ทางด่วน 2

นายไพรินทร์กล่าวว่า สุดท้ายบอร์ด กทพ. มีมติขยายเวลาสัมปทานทางด่วนจำนวน 3 สัญญาให้กับ BEM สัญญาละอีก 15 ปี ขณะที่ BEM ยอมลงมูลหนี้ฟ้องร้องเหลือ 5.9 หมื่นล้านบาทและจะยอมยุติคดีทั้ง 2 คดี รวมทั้ง BEM จะลงทุนก่อสร้างทางด่วน 2 ชั้น บริเวณอโศกศรีนครินทร์อีก 3 หมื่นล้านบาทให้ด้วย โดยมีเงื่อนไขว่าหากไม่สามารถก่อสร้างได้ เพราะโครงการไม่ผ่านรายงานวิเคราะห์ผลกระทยทางสิ่งแวดล้อม (EIA) ภายใน 2 ปี จะถูกปรับลดระยะเวลาการขยายสัมปทานทางด่วนช่วงอโศกศรีครินทร์ ลงเหลือ 15 ปี จากเดิม 30 ปี 

จากข้อสรุปนี้ถือว่า บอร์ด กทพ. ได้ทำตามมติ ครม. ถูกต้องตามหลักการทั้งหมดแล้ว คือไม่จ่ายเป็นเงินชดใช้มูลหนี้และประชาชนก็ได้ประโยชน์จากการที่ กทพ. จะลงทุนก่อสร้างทางด่วน 2 ชั้นบริเวณอโศกศรีนครินทร์เพิ่มให้ แต่ที่กระทรวงเสนอเรื่องกลับให้บอร์ด กทพ. พิจารณาอีกครั้ง ก็เนื่องจากต้องการให้ไปดูเพิ่มเติมในส่วนของวิธีการเท่านั้นว่า ต้องตามขั้นตอนของ พ... การให้เอกชนร่วมทุนในกิจการของรัฐ (PPP) ต้องยึดตามกฎหมายปี 2535,  2552 หรือ 2562 ครบถ้วนถูกต้องหรือไม่อย่างไร  จากนั้นให้สรุปเสนอให้รัฐบาลใหม่ซึ่งก็เป็นหน้าที่ของรัฐบาลใหม่ต้องตัดสินว่า จะดำเนินการอย่างไรต่อไปนายไพรินทร์กล่าว

Avatar photo