Sport

สวย เก่ง ดุ! ‘พาณิภัค’ ต้อนสาวไต้หวัน 17-0 ป้องแชมป์เทควันโดม.โลก

“เทนนิส” พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ นักเทควันโดมือ 1 ไทย และ มือ 1 โลกโชว์ฟอร์มสุดยอดป้องแชมป์รุ่นน้ำหนัก 49 กก.หญิงกีฬามหาวิทยาลัยโลกไว้ได้อีกสมัยหลังต้อนชนะคู่แข่งไต้หวันในนัดชิงขาด 17-0 รับอัดฉีดแน่ๆ 1 ล้านบาท เจ้าตัวดีใจทำผลงานได้ตามเป้า พร้อมเดินหน้าล่าสานฝันให้เป็นจริงกับเหรียญทองโอลิมปิกเกมส์ต่อไป

1562809333362

การแข่งขันกีฬามหาวิทยาลัยโลก ฤดูร้อน ครั้งที่ 30 “นาโปลี 2019” ที่เมืองนาโปลี ประเทศอิตาลี เมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม ตามเวลาท้องถิ่น ทัพนักกีฬาไทยได้เห็นเหรียญทองแรกจาก “เทนนิส” พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ จอมเตะชุดขาวดีกรีมือ 1 โลก พร้อมกับอีก 2 เหรียญทองแดง

“เทนนิส” พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ จอมเตะชุดขาว”แชมป์เก่า” ที่มีดีกรีแชมป์โลก และ เหรียญทองแดงโอลิมปิเกมส์ ผงาดคว้าเหรียญทอง ป้องกันแชมป์รุ่นน้ำหนักไม่เกิน 49 กก.หญิงได้ตามคาดหลังรอบแรกได้บาย รอบสอง (16คน) ชนะ โช เฮ จิน (เกาหลีใต้) 22-8 ผ่านเข้ารอบ 8 คนสุดท้ายเอาชนะ คามิล่า ซิลวา เบเซร์ร่า (บราซิล) 9-3 ขณะที่รอบรองชนะเลิศเตะแค่ 2 ยกเอาชนะ ไคเรียกี้ คูตูกี้ จากไซปรัสแบบแต้มขาดลอย 28-1

รอบชิงชนะเลิศ”เทนนิส” ยังโชว์ฟอร์มเหนือชั้นเอาชนะ จวง เทียน หยู จอมเตะจากไต้หวันได้อย่างง่าย โดยยกแรก พาณิภัค อาศัยช่วงขาที่ยาวกว่าเตะเข้าศรีษะคู่แข่งเก็บ 3 แต้มนำก่อนจากนั้นมาได้ลำตัวจบยกนำ 5-0 ยกสอง พาณิภัค เตะเข้าลำตัวได้อีก 2 แต้มนำ 7-0 ยกสุดท้าย จอมเตะไทยอาศัยจังหวะสองขณะที่คู่แข่งเดินเข้าหาใช้จังหวะออกอาวุธที่แม่นยำกว่าเก็บ 10 แต้มรวดคว้าชัย 17-0 คว้าเหรียญทองในครั้งนี้พร้อมรับเงินรางวัลอัดฉีดจากกองทุนพัฒนากีฬาแห่งชาติ จำนวน 1 ล้านบาท

1562809327159

พาณิภัค เผยว่า “รู้สึกดีใจมากที่สามารถคว้าเหรียญทองกีฬามหาวิทยาลัยโลก ได้อีกครั้ง การแข่งขันยอมรับว่าไม่ได้หนักมาก อย่างนัดชิงที่เจอไต้หวันเคยเห็นฟอร์มคู่แข่งมาก่อนเพราะเคยไปซ้อมที่เมืองไทย ส่วนเป้าหมายต่อไปที่วางไว้ปีนี้คือซีเกมส์ และเป้าหมายที่ใหญ่กว่านั้นคือ เหรียญทองโอลิมปิกเกมส์ ซึ่งขณะนี้จากคะแนนสะสมโลกเพียงพอที่จะไปเล่นโอลิมปิกเกมส์ที่ญี่ปุ่นปีหน้าแล้ว แต่จะไปถึงเหรียญทองหรือไม่อยู่ที่ตัวเองว่าจะทำได้อย่างที่หวังหรือไม่เนื่องจากไม่ใช่งานง่าย แต่จะพยายามทำให้เต็มที่ และทุกครั้งที่ลงสนามจะบอกตัวเองไว้เสมอว่าจะต้องทำให้เต็มที่และดีที่สุดไม่ว่าผลจะออกมาอย่างไรก็จะไม่เสียใจ”

ขณะที่ “จูเนียร์” รามณรงค์ เสวกวิหารี ลงแข่งขันในรุ่นน้ำหนักไม่เกิน 58 ก.ก. รอบแรก ชนะ วาลเดท อัลลาราจ์ (อัลบาเนีย) 39-16 ผ่านเข้ารอบสอง (16คน) ก็ยังคงโชว์ฟอร์มได้ดีเอาชนะ อาร์เธอร์ ชาเคนอฟ(คาซัคสถาน) 22 -10 ผ่านเข้าไปรอบ 8 คน ชนะ จอร์จี้ กีร์เซียฟ (รัสเซีย) 34-26 ทะลุเข้ารอบรองชนะเลิศไปเจอกับ อาร์มีน ฮาดิปอร์ ไซกาลานี่(อิหร่าน) ซึ่ง ยกแรก จอมเตะไทยที่มีอาการเจ็บข้อเท้าสะสมมาตั้งแต่รอบก่อนรองฯ ทำให้ไม่กล้าออกอาวุธมาก เปิดโอกาสให้คู่แข่งใช้ความไวถีบเข้าหัวทำแต้มนำ 18-8 ยกสอง รามณรงค์ พยายามจะออกอาวุธมากขึ้นเพื่อทำคะแนนแต่ก็ถูกอิหร่านดักสวนกลับ และ เดินเข้าหาตลอดทำให้จอมเตะไทยไม่สามารถทำอะไรได้ถนัด หมดยกนี้ตาม 16-28 จากนั้นในยกสาม อิหร่านอาศัยความไวใช้จังหวะที่ รามณรงค์ บุกเข้ามาดักจิ้มเก็บแต้มได้อีกขณะที่นำ 33-16 รามณรงค์ มีอาการเข็บข้อเท้าขวาล้มไปกองกับพื้นและขอยอมแพ้ไปในขณะที่เวลาเหลือนาทีเศษๆ ทำให้ รามณรงค์ คว้าเหรียญทองแดงไปครอง

ส่วนอีกหนึ่งทองแดงมาจาก “ปาร์ค” สุทธิศักดิ์ สิงขรณ์ นักทศกรีฑาไทยเจ้าของแชมป์เอเชียเมื่อปีที่แล้วที่ทำผลงานการแข่งขันทศกรีฑาคว้าอันดับ 3 ได้เหรียญทองแดง โดยการแข่งขันรายการนี้มีแข่ง 2 วันๆละ 5 ประเภท สุทธิศักด์ ทำสามารถทำคะแนนรวม 10 ประเภทที่แข่งได้ทั้งสิ้น 7511 คะแนน ขณะที่เหรียญทองเป็นของ แอร่อน โบ๊ท (นิวซีแลนด์) 7827 คะแนน และ เหรียญเงิน อเล็กซานเดอร์ ไดม่อน(ออสเตรเลีย) 7593 คะแนน และนับเป็นครั้งแรกที่นักกีฬาทศกรีฑาของไทยสามารถคว้าเหรียญรางวัลในกีฬามหาวิทยาลัยโลก

Avatar photo