ปัจจุบันกลยุทธ์ซีอาร์เอ็ม หรือการบริหารความสัมพันธ์กับผู้บริโภค (Customer Relationship Management : CRM) เข้ามามีบทบาทกับธุรกิจมากขึ้น โดยผลจากการสำรวจของ การ์ทเนอร์ พบว่า ตลาดซีอาร์เอ็ม ทั่วโลก ในปี 2558 ที่ผ่านมา เติบโตขึ้นถึง 12.3% จากปี 2557 จนมีมูลค่ารวมถึง 920,500 ล้านบาท อีกทั้งภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิก ยังเป็นตลาดที่เติบโตเร็วที่สุดในธุรกิจซีอาร์เอ็มอีกด้วย โดยเติบโตถึง 21.9%
ขณะที่ ประเทศไทยก็ถือได้ว่าเป็นผู้นำในตลาดซีอาร์เอ็มในภูมิภาค จากการตลาดที่มีการแข่งขันสูงเมื่อเทียบกับประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ในขณะที่ประเทศจีนเติบโตรวดเร็วเป็นอันดับถัดมาที่ 18.4% ส่วนทางตะวันออกกลาง และแอฟริกาเหนือ มีการเติบโตที่ 10.7% และ 10.2% ตามลำดับ
นางสาวณัฐธิดา สงวนสิน กรรมการผู้จัดการ บริษัท บัซซี่บีส์ จำกัด เปิดเผยว่า สำหรับประเทศไทย เริ่มเห็นได้ชัดเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมาว่า แบรนด์ใหญ่ๆ ในธุรกิจสินค้าอุปโภคบริโภคเริ่มต้องการมีระบบซีอาร์เอ็มเป็นของตนเอง เพื่อเน้นสร้างความผูกพันกับผู้บริโภคมากยิ่งขึ้น เพราะคุ้มค่ากว่า เกิดความผูกพันต่อแบรนด์มากกว่า และเห็นผลลัพธ์จาก ROI หรืออัตราส่วนผลตอบแทนจากการลงทุนที่ดีกว่า
ทั้งนี้ บัซซี่บีส์ ถือว่าเป็นผู้นำในการออกแบบพัฒนาแพลตฟอร์ม ซีอาร์เอ็ม พริวิเลจ แบบครบวงจรมากว่า 7 ปี โดยมีส่วนแบ่งกว่า 90% ในตลาดนี้ จึงวางนโนบายจะเน้นการสร้างระบบอีโคซิสเต็มให้กับแบรนด์ โดยการเชื่อมผู้บริโภคเข้ากับดีลเลอร์ของแบรนด์ บนแพลตฟอร์มดิจิทัลได้ทุกช่องทางทั้งบนเว็บไซต์ แอพพลิเคชั่น หรือบนช่องทางไลน์
ดังนั้น ล่าสุด บัซซี่บีส์ จึงเข้าร่วมเป็นพาร์ทเนอร์กับไลน์ เพื่อพัฒนาต่อยอดธุรกิจของแบรนด์ต่างๆ ที่ต้องการมีระบบซีอาร์เอ็มเป็นของตนเอง โดยผ่านแพลตฟอร์มไลน์ ออฟฟิศเชียล แอคเคาท์ (LINE Official Account) จากความโดดเด่นของไลน์ ที่มีฐานผู้ใช้งานมากกว่า 40 ล้านรายทั่วประเทศ และอำนวยความสะดวกให้กับแบรนด์องค์กรหลายประการ อาทิ สามารถออกแบบและพัฒนาระบบได้อย่างรวดเร็ว สร้างฐานผู้บริโภคได้มากในระยะเวลาไม่นาน สามารถออกแบบลูกเล่นได้หลากหลายฟีเจอร์เพื่อช่วยดึงดูดใจผู้บริโภค
ที่สำคัญ คือ ทำให้แบรนด์ สามารถทราบถึงพฤติกรรมผู้บริโภคในเชิงลึกผ่านระบบอีโคซิสเต็ม และข้อมูลบิ๊กดาต้าของบัซซี่บีส์โดยมีฐานลูกค้ามากกว่า 50 ล้านรายในปัจจุบัน โดยระบบจะเก็บข้อมูลเพื่อนำไปวิเคราะห์ทุกๆ พฤติกรรมของผู้บริโภค ทำให้สามารถออกแบบพัฒนาแคมเปญได้ตรงใจมากขึ้น รวมถึงยังนำเสนอแคมเปญเฉพาะกลุ่ม (Personalized Campaign) ได้อย่างแม่นยำและมีประสิทธิภาพ ซึ่งเป็นเทรนด์การทำตลาดในปัจจุบันและในอนาคตอีกด้วย
สำหรับการทำงานร่วมกับแบรนด์นั้น เริ่มต้นจาก แบรนด์มี LINE Official Account จากนั้น บัซซี่บีส์ สามารถทำงานร่วมกับแบรนด์ได้ตั้งแต่การนำเสนอกลยุทธ์ การออกแบบแคมเปญ ทั้งด้านของผู้บริโภค อาทิ การสร้างฐานลูกค้า การแจกสินค้าตัวอย่าง ให้ทดลองผ่านเครือข่ายพาร์ทเนอร์ของบัซซี่บีส์ การสะสมคะแนน การรับสิทธิพิเศษและของรางวัล การลุ้นรับรางวัล การซื้อของผ่านระบบ อีคอมเมิร์ซ การสำรวจความคิดเห็น การไดร์ฟคนจากออนไลน์สู่ออฟไลน์ หรือการไดร์ฟคนจากออฟไลน์สู่ออนไลน์ รวมถึงการวัดผลเพื่อให้ถึงตรงตามเป้าหมายที่กำหนด
ปัจจุบัน บัซซี่บีส์ มีการพัฒนาลอยัลตี้ แพลตฟอร์ม จาก LINE Official Account ให้กับแบรนด์ใหญ่ๆ มากกว่า 10 แบรนด์ในหลากหลายสาขาธุรกิจ อาทิ น้ำดื่มสิงห์ โคคา-โคล่า เนสกาแฟ เนสท์เล่เพียวไลฟ์ แดรี่ควีน คอนแทคเลนส์แอคคิววิว หลอดไฟฟิลิปส์ ธนชาต ซิตี้แบงก์ เดอะพิซซ่าคอมปะนี และเอ็ม150 เป็นต้น และยังมีแผนพัฒนากลยุทธ์และฟีเจอร์ใหม่ๆ ออกมาอย่างต่อเนื่อง โดยคาดว่าภายในสิ้นปี 2562 จะมีแบรนด์บนแพลตฟอร์ม ไลน์ มากกว่า 20 แบรนด์ และยังคงมีแนวโน้มเติบโตขึ้นเรื่อยๆ
