ไพร์ซซ่า ชี้ตลาดอีคอมเมิร์ซครึ่งปีแรกไทยอัตราการซื้อโตขึ้นจากปีที่แล้ว 33% เผยลูกค้ามั่นใจช้อปปิ้งออนไลน์มากขึ้น สินค้าบนแพลตฟอร์มยังเพิ่มต่อเนื่อง เร่งเปิดตัวโมเดลใหม่ E-Commerce Distribution Platform จับมือพันธมิตรขยายฐานลูกค้าธุรกิจอื่นทั้งไทยและต่างประเทศ
นายธนาวัฒน์ มาลาบุปผา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ร่วมก่อตั้ง บริษัท ไพรซ์ซ่า จำกัด ผู้ให้บริการ “ไพร์ซซ่า” (Priceza) เครื่องมือค้นหาสินค้าและบริการเปรียบเทียบราคา เปิดเผยว่า ปัจจุบันพบว่ามีผู้ช้อปออนไลน์ชาวไทยประมาณ 20 ล้านคน โดยจากข้อมูลสถิติเชิงลึกของไพรซ์ซ่าในช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมา (1 ม.ค. – 30 มิ.ย. 62) พบว่า มีจำนวนสินค้าที่อยู่บนแพลตฟอร์มทั้งหมดราว ๆ 50 ล้านชิ้น และคาดการณ์ว่าสิ้นปี 2562 นี้ จำนวนสินค้าจะพุ่งไปแตะที่ 62 ล้านชิ้น สะท้อนว่ามีผู้ขายสินค้าออนไลน์เพิ่มขึ้นต่อเนื่องหรือเพิ่มขึ้นราว 29% จากปี 2561
ข้อมูลดังกล่าวชี้ให้เห็นถึงทิศทางตลาดอีคอมเมิร์ซของประเทศไทยที่เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องและรวดเร็ว โดยหมวดหมู่สินค้าที่อยู่บนแพลตฟอร์มของ Priceza มีหลากหลายประเภท ได้แก่ เสื้อผ้าและแฟชั่น เฟอร์นิเจอร์และอุปกรณ์ภายในบ้าน กีฬา สัตว์เลี้ยง และของสะสม สินค้าสำหรับแม่และเด็ก สุขภาพและความงาม เป็นต้น และสินค้าที่อยู่ในแพลตฟอร์มของ Priceza 42% เป็นสินค้าในประเทศ และ 58% เป็นสินค้าจากต่างประเทศ (Cross Border)
นอกจากนี้ยังพบว่า ในแต่ละเดือนมีผู้เข้าชมแพลตฟอร์ม Priceza จำนวนเฉลี่ยกว่า 13 ล้านคนต่อเดือน เกิดเป็นอัตราการซื้อขายถึง 4.06% ซึ่งตัวเลขนี้โตขึ้นจากปีที่แล้วทั้งปี 33% ในส่วนของคำค้นหายอดนิยมในแต่ละเดือน นักช้อปจะนิยมค้นหาในคีย์เวิร์ดที่แตกต่างกันไป และอาจสัมพันธ์กับเทรนด์ในช่วงนั้น ๆ อาทิ เดือนเมษายน คำค้นหายอดนิยม คือ มาร์เวล ซึ่งตรงกับช่วงที่เข้าฉายภาพยนตร์ Avengers End Game ของ มาร์เวล เป็นต้น
สำหรับหมวดหมู่สินค้าที่มียอดขายสูงสุด ได้แก่ สินค้าสุขภาพและความงาม 27% เสื้อผ้าและแฟชั่น 17% เครื่องใช้ไฟฟ้า 11% เฟอร์นิเจอร์และอุปกรณ์ภายในบ้าน 9% และโทรศัพท์-อุปกรณ์สื่อสาร 7%
ปัจจุบัน Priceza ถือเป็นผู้นำตลาดเปรียบเทียบราคาสินค้าบนโลกออนไลน์ ดังนั้น เทรนด์การเปรียบเทียบราคาและซื้อขายที่เกิดขึ้นบน Priceza จึงสามารถสะท้อนถึงภาพรวมตลาดค้าออนไลน์ได้เช่นกัน เพราะเติบโตไปในทิศทางเดียวกัน
ล่าสุด Priceza ได้เปิดตัวโมเดลธุรกิจใหม่ ตอกย้ำความเป็นผู้นำอีคอมเมิร์ซ ฮับ โดยเปิดตัว อีคอมเมิร์ซ ดิสตริบิวชั่น แพลตฟอร์ม ขึ้น พร้อมทั้งจับมือพันธมิตรในหลากหลายธุรกิจเพื่อตอบโจทย์ความต้องการซื้อสินค้าผู้บริโภคขณะนั้นได้ทันที เพราะปัจจุบันคนไทยใช้เวลากับอินเทอร์เน็ตเฉลี่ยวันละ 4.2 ชั่วโมง และกิจกรรมที่นิยมสูงสุด 5 อันดับแรกคือ โซเชียลมีเดีย เสิร์ช อีเมล บันเทิง และซื้อขายสินค้าออนไลน์ ตามลำดับ
“ผู้ใช้งานในแต่ละแพลตฟอร์มมักจะมีโมเมนต์ที่จะซื้อสินค้า ณ ขณะนั้น โดย Priceza จะเป็นเทคโนโลยีที่ช่วยตอบโจทย์ความต้องการซื้อสินค้าของผู้ใช้งานในทุก ๆ แพลตฟอร์ม นั่นเอง ด้วยการจับพฤติกรรมผู้บริโภค เช่น ขณะชมซีรีย์ แล้วคอนเทนต์บนซีรีย์ มีมือถือรุ่นใหม่ ไพร์ซซ่าจะแทรกข้อมูลสินค้าตัวนั้นให้ผู้บริโภคเห็นทันที เพื่อกระตุ้นให้เกิดการตัดสินใจซื้อ เป็นต้น”นายธนาวัฒน์กล่าว
ในส่วนของบริการ Priceza Money ที่เปิดตัวเต็มรูปแบบแล้ว เพื่อให้บริการค้นหาและเปรียบเทียบผลิตภัณฑ์ทางการเงิน ได้แก่ ประกันภัยรถยนต์ สินเชื่อส่วนบุคคล บัตรเครดิต ปัจจุบันมีแผนประกัน จำนวน 1.2 ล้านแผนประกัน ยอดขายในแต่ละผลิตภัณฑ์โตขึ้นอย่างต่อเนื่องเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา โดยกลุ่มผลิตภัณฑ์ประกันรถยนต์ โตขึ้นถึง 8 เท่า กลุ่มบัตรเครดิต โตขึ้น 5 เท่า และ สินเชื่อบุคคลโตขึ้น 7 เท่า เป็นต้น
