ตลาดเครื่องดื่มชูกำลังในประเทศไทยมูลค่า 3.4-3.5 หมื่นล้านบาท ติดลบ 2-3% ต่อเนื่องในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา จากปัจจัยภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว กำลังซื้อกลุ่มฐานรากซึมจากราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ เมื่อสินค้าเครื่องดื่มชูกำลังในไทย ถูกสร้างการรับรู้และยึดโยงว่าเป็นสินค้าที่มีกลุ่มฐานรากเป็นกำลังซื้อหลัก จึงปฏิเสธไม่ได้ว่าตลาดถดถอยในช่วงที่ผ่านมา
ดังนั้นหากต้องการเติบโตในตลาดเครื่องดื่มชูกำลัง จึงต้องสร้างสตอรี่ใหม่ให้กับสินค้าและบุกตลาดที่ยังมีโอกาสไปต่อได้!
ประกาศสู่แบรนด์ระดับโลกดันส่งออก
เสถียร เศรษฐสิทธิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท คาราบาวกรุ๊ป จำกัด กล่าวว่ากลยุทธ์การเติบโตของคาราบาว คือการมุ่งขยายตลาดส่งออกที่เครื่องดื่มชูกำลังจากไทยยังมีโอกาสไปทำตลาดได้ เพราะในตลาดโลก มี 2 แบรนด์หลักเรียกว่าเป็นสินค้าระดับโลก คือ Red Bull และ Monster Energy
“คาราบาว” จึงประกาศเป้าหมายขึ้นแท่นเป็นสินค้าระดับโลก และแบรนด์ระดับโลก (The World Class Product, World Class Brand) ครอบคลุมทุกกลุ่มเป้าหมาย โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ ซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายหลักของเครื่องดื่มชูกำลังในตลาดโลก และเป็นกลุ่มที่ผลักดันตลาดเติบโตเฉลี่ยปีละ 10% มูลค่าตลาดสูงถึง 6.2 แสนล้านดอลลาร์
เป้าหมายการก้าวสู่สินค้าระดับโลกและแบรนด์ระดับโลกของ “คาราบาว” วางไว้ในช่วง 5 ปีนี้ สิ่งที่ต้องทำคือ ช่วง 2-3 ปีนี้ ต้องขยายสินค้าครอบคลุมตลาดยุโรปให้ได้ 20 ประเทศ จากปัจจุบันทำตลาด 7-8 ประเทศ
โดยต่อยอดจากการสร้างแบรนด์ ด้วยการเป็นสปอนเซอร์สโมสรฟุตบอลเชลชี ประเทศอังกฤษ ในฐานะ PRINCIPAL PARTNER (พันธมิตรหลัก) เป็นเวลา 3 ปี คือ 2016-2019 ด้วยงบประมาณ 30 ล้านปอนด์ และการสนับสนุน อีเอฟแอล คัพ (EFL Cup) ประเทศอังกฤษ ภายใต้ชื่อ “คาราบาวคัพ” เป็นระยะเวลา 3 ปี (2017 – 2020) ด้วยงบประมาณ 20 ล้านปอนด์ กลยุทธ์การเป็นสปอนเซอร์ดังกล่าว เป็น “กุญแจ” สำคัญที่ทำให้แบรนด์คาราบาวเป็นที่รู้จักในอังกฤษและตลาดยุโรป “วันนี้สินค้าคาราบาวเข้าห้างสรรพสินค้าดังในอังกฤษได้แล้วเกือบทุกห้าง”
เจาะตลาดจีนหวังส่วนแบ่งตลาด 20%
อีกตลาดสำคัญที่จะทำให้สินค้าและแบรนด์ก้าวสู่ระดับโลก คือ การเข้าไปทำตลาดในจีน ช่วง 5 เดือนแรกจำหน่ายไปแล้ว 100 ล้านกระป๋อง ปีนี้ตั้งเป้า 200 ล้านกระป๋อง ภายใน 5 ปี ต้องการมีส่วนแบ่งการตลาด 20% ในตลาดจีน
“หลังจากบรรลุเป้าหมาย 3-5 ปี การทำตลาดยุโรปและจีนแล้ว เป้าหมายต่อไปคือ สหรัฐ ที่วันนี้มีผู้สนใจต้องการเป็นพาร์ทเนอร์กับคาราบาวบุกตลาดดังกล่าวแล้ว”
ตั้งแต่ปีที่ผ่านมาสัดส่วนรายได้ตลาดส่งออกขยับขึ้นต่อเนื่อง ปี 2560 อยู่ที่ 40% ปี 2561 เป้าหมายอยู่ที่ 60% และภายใน 3 ปี ขยับไปที่ 80% จากการบุกตลาดยุโรปและจีน อย่างต่อเนื่อง ปีนี้ตลาดส่งออกยังเติบโตที่อัตรา 30%
รีเฟรชแบรนด์ส่ง “คาราบาวแคน”เจาะรุ่นใหม่
เสถียร กล่าวว่าสำหรับตลาดเครื่องดื่มชูกำลังในไทย ช่วง 2 ปีที่อยู่ในภาวะติดลบ จากกำลังซื้อฐานรากซบเซา แต่อีกปัจจัยมาจากการไม่มีสินค้าใหม่ทำตลาด ดังนั้นเมื่อเป้าหมาย คาราบาว “ต้องโต”ในตลาดที่ถดถอย จึงต้องทำสิ่งที่แตกต่าง!!
กลยุทธ์ปีนี้ “รีเฟรช แบรนด์” ให้มีความทันสมัยมากขึ้น พร้อมเติบโตอย่างยั่งยืนในยุค 4.0 ด้วยการขยายฐานผู้บริโภคให้ครอบคลุมทุกกลุ่ม ทั้งกลุ่มคนรุ่นใหม่ วัยทำงานและกลุ่ม Gen Y ที่ชื่นชอบความแปลกใหม่ไม่ซ้ำใคร และพร้อมเปิดรับประสบการณ์ใหมที่ท้าทาย ด้วยการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ “Carabao Can กลิ่น Green Apple“ ภายใต้คอนเซ็ปต์ “Don’t Say Can’t, Carabao CAN”อย่าบอกตัวเองว่าทำไม่ได้”
ผลิตภัณฑ์ “คาราบาว แคน กลิ่นกรีนแอปเปิล” เป็นสินค้าที่ผลิตในประเทศไทย แต่ส่งออกไปทำตลาดในประเทศอังกฤษและยุโรป ซึ่งได้รับความนิยมสูง ปัจจุบันมี 5 รสชาติ
ในจังหวะที่ คาราบาว เป็นหนึ่งในสปอนเซอร์การถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก 2018 จึงนำสินค้า “คาราบาว แคน” มาเปิดตัวทำตลาดในไทย ด้วยบรรจุภัณฑ์ที่มีความทันสมัย สีสันสะดุดตา โดยเลือก TwoPee Southside แรปเปอร์ชื่อดังของไทยมาเป็นพรีเซ็นเตอร์ สินค้าวางเป้าหมายคนรุ่นใหม่กลุ่มมิลเลนเนียล ซึ่งจะเป็นอีกฐานลูกค้าสำคัญผลักดันตลาดเครื่องดื่มชูกำลังเติบโตหลังจากนี้
“คาราบาว แคน เป็นแบรนด์แรกที่วางกลุ่มเป้าหมายชัดเจนว่าต้องการเจาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ แม้มีแบรนด์อื่นที่ทำตลาดบรรจุภัณฑ์รูปแบบเดียวกันอยู่ในตลาดอีก 2 แบรนด์ แต่ไม่ชัดเจนว่าเป็นเครื่องดื่มชูกำลังของคนรุ่นใหม่”
วางเป้าหมายเบอร์หนึ่งปี63
สำหรับการทำตลาด “คาราบาว แคน” จะวางจำหน่ายตั้งแต่วันที่ 14 มิถุนายนเป็นต้นไป เฉพาะในร้าน 7-11 ทั่วประเทศกว่า 1 หมื่นสาขา ราคา 25 บาท ช่วง 3 เดือนแรกวางเป้าหมายยอดขาย 1 ล้านกระป๋อง หลังจากนั้นจบการขาย 3 เดือนในร้านเซเว่นฯ จะพิจารณาการทำตลาดรูปแบบอื่นต่อไป
ในช่วงการแข่งขันฟุตบอลโลก 2018 เริ่มวันที่ 14 มิถุนายนถึง 15 กรกฎาคมนี้ คาราบาว ได้จัดกิจกรรม “สวัสดีบอลโลก ลุ้นโชคกับคาราบาว” เชียร์ทุกวัน ลุ้นทุกแมทช์ มอบรางวัลมูลค่ารวมกว่า 3 ล้านบาท ด้วยการแอดไลน์ (LINE) สมาชิก “คาราบาวแดง” แล้วส่งรหัสใต้ฝา 7 หลัก ระบุชื่อทีมชาติที่อยากให้เป็นแชมป์บอลโลก เพื่อลุ้นรับรถยนต์ TOYOTA C-HR HV H1 สี Rediant green metallic มูลค่า 1.15 ล้านบาท จำนวน 1 รางวัล และลุ้นรางวัลอื่นๆ ทุกวัน รวม 65 รางวัล มูลค่า 3 ล้านบาท
เสถียร กล่าวว่าการทำตลาดเครื่องดื่มชูกำลังในประเทศไทยปีนี้มีเป้าหมายเติบโต 10% ปัจจุบัน คาราบาว มีส่วนแบ่งการตลาดอันดับ 2 อยู่ที่ 25-26% กลยุทธ์การทำตลาดปีนี้ ยังโฟกัสที่ “สาวบาวแดง” กว่า 570 คน 84 ทีม ที่จะมุ่งทำตลาดแบบเอ็กซ์เรย์ระดับอำเภอ เพื่อกระตุ้นผู้บริโภคให้เลือกแบรนด์สินค้าคาราบาว
โดยคาราบาว ตั้งเป้าสู่การก้าวขึ้นแท่นเป็นผู้นำอันดับ 1 ของตลาดเครื่องดื่มชูกำลังในไทย ปี 2563 ด้วยส่วนแบ่งการตลาด 35%