ภาพรวมภาวะเศรษฐกิจปี 2561 มีแนวโน้มดีกว่าปีก่อนหน้านี้ค่อนข้างมากเพราะด้วยปัจจัยบวกหลายอย่าง ที่มีผลทำให้ภาวะเศรษฐกิจในช่วงไตรมาส 4 และต่อเนื่องมาถึง ปี 2561 ดีขึ้นกว่าปีก่อนหน้านี้ค่อน ทั้งปัจจัยบวกทางเศรษฐกิจที่ดีต่อเนื่องจากปีที่ผ่านมา ส่งผลต่อเนื่องให้ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์หลายรายที่ประกาศแผนการดำเนินธุรกิจในปี 2561 ออกมาแล้ว ล้วนมีความต้องการรายได้ที่มากขึ้นกว่าปีก่อนหน้านี้แทบทุกราย
โดยในปี 2561 คาดว่าบริษัทอสังหาฯ รายใหญ่ในตลาดหลักทรัพย์ มีแผนการเปิดขายโครงการใหม่ทั้งบ้านจัดสรรและคอนโดมิเนียมมูลค่ารวมกันประมาณ 4 แสนล้านบาทหรืออาจจะมากกว่านี้เมื่อรวมกับโครงการของบริษัทขนาดกลางและขนาดเล็กอื่น ๆ นอกตลาดหลักทรัพย์
ผู้ประกอบการายใหญ่ในตลาดหลักทรัพย์ยังคงเป็นตัวขับเคลื่อนให้อสังหาฯ โดยเฉพาะตลาดที่อยู่อาศัยขยายตัวต่อเนื่องแบบที่เป็นมาก่อนหน้านี้ และคาดว่าผู้ประกอบการรายใหญ่ในตลาดหลักทรัพย์จะยังคงมีสัดส่วนมากที่สุดต่อไปอีกยาวนานด้วยปัจจัยหลายๆ อย่างที่รายใหญ่ได้เปรียบกว่ารายเล็กหรือผู้ประกอบการหน้าใหม่ที่เพิ่งเข้าสู่ตลาดอสังหาฯ
โดยเฉพาะปัจจุบันที่การขอสินเชื่อของผู้ประกอบการที่อาจจะต้องมีขั้นตอนและการตรวจสอบจากทางธนาคารที่ค่อนข้างเข้มงวด ส่งผลให้การดำเนินธุรกิจของผู้ประกอบการรายกลางหรือรายเล็กและหน้าใหม่ต้องประสบกับภาวะชะงักงัน เนื่องจากการเงินที่ไม่ต่อเนื่องยิ่งก่อนหน้านี้ที่ภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวยอดขายโครงการของผู้ประกอบการบางรายไม่เป็นไปตามเป้าทำให้ธนาคารพิจารณาปล่อยสินเชื่อเพื่อพัฒนาโครงการลดลงจากที่ตกลงกันไว้
แต่รายใหญ่ในตลาดหลักทรัพย์มีช่องทางการออกหุ้นกู้ในตลาดหลักทรัพย์เข้ามาเป็นทางเลือกที่พวกเขาเลือกนำมาใช้กันในช่วงที่ผ่านมา ดังนั้น ช่องว่างของรายใหญ่และผู้ประกอบการระดับรองลงไปจึงยิ่งมากขึ้น
เราจึงเห็นผู้ประกอบการายกลาง รายเล็กที่เพิ่งเข้าสู่ตลาดอสังหาฯ ได้ไม่นานเปิดขายโครงการใหม่มากขึ้นในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมาเพื่อสะสมยอดการรับรู้รายได้ในอนาคตรวมไปถึงมูลค่าของบริษัทให้มากขึ้นเพื่อเตรียมความพร้อมในการเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์แบบที่เห็นบางบริษัททำได้สำเร็จก่อนหน้านี้
ผู้ประกอบการรายกลางบางรายมีการเปิดขายโครงการใหม่มากขึ้นแบบเห็นได้ชัดเพื่อหวังผลในอนาคต การเปิดขายโครงการใหม่ของผู้ประกอบการทั้งรายใหญ่ รายกลาง และรายเล็กรวมกันจึงมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นทุกปีๆ
ปี 2561 คาดการณ์ว่าความคึกคักในตลาดอสังหาฯ จะยังคงไม่ได้แตกต่างจากปีที่แล้วเท่าใดนักกลับกันมีแนวโน้มที่จะมีโครงการเปิดขายใหม่มากกว่าอย่างเห็นได้ชัด โดยดูได้จากแผนการเปิดขายโครงการใหม่ที่ผู้ประกอบการประกาศมาก่อนหน้านี้
ช่วง 2 เดือนแรกปีนี้ ตลาดอสังหาฯ มีความเคลื่อนไหวค่อนข้างคึกคักใกล้เคียงกับปีก่อนหน้านี้ทั้งในตลาดคอนโดและบ้านจัดสรร โดยมีคอนโดเปิดขายใหม่ในกรุงเทพฯ 6,000 ยูนิตใกล้เคียงกับปีก่อนหน้านี้ที่มีคอนโดเปิดขายเมื่อผ่านช่วง 2 เดือนแรกของปีไปประมาณ 6,380 ยูนิตต่างกันไม่มาก และอีกมากกว่า 3,000 ยูนิตที่มีแผนจะเปิดขายในเดือนมีนาคม 2561 ซึ่งถ้าเป็นไปตามที่ผู้ประกอบการประกาศออกมาก่อนหน้านี้ก็จะมีคอนโด เปิดขายใหม่ในกรุงเทพฯ ไตรมาสแรกกว่า 1 หมื่นยูนิตขึ้นไปแน่นอน ใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา
ในส่วนของบ้านจัดสรร อาจจะดูจำนวนที่แน่นอนไม่ได้ชัดเจนแบบตลาดคอนโดเพราะผู้ประกอบการอาจจะประกาศว่าเปิดขายโครงการแต่เมื่อเปิดขายจริงปรากฏว่าเปิดขายเพียงบางส่วนของโครงการก่อนเพื่อจะได้ทยอยสร้าง ทยอยขายไปเรื่อย ๆ โดยจำนวนยูนิตรวมของบ้านจัดสรรที่มีแผนเปิดขายโครงการใหม่ในช่วง 2 เดือนแรก ปี2561 อยู่ที่ 852 ยูนิต เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี2560 ซึ่งมีบ้านจัดสรรเปิดขายใหม่ 2,000 ยูนิตอาจจะแตกต่างจากปีที่แล้วค่อนข้างมากเพราะผู้ประกอบการส่วนใหญ่เลือกเปิดขายโครงการบ้านจัดสรรใหม่ในจังหวัดริมณฑลรอบกรุงเทพฯ มากกว่า เนื่องจากราคาที่ดินที่ต่ำกว่าและการเดินทางที่สะดวกสบายมากขึ้นประกอบกับบ้านจัดสรรบนที่ดินยังคงเป็นตัวเลือกลำดับแรกของคนไทยที่ต้องการซื้อที่อยู่อาศัยยิ่งในทำเลที่ราคาคอนโดใกล้เคียงกับราคาบ้านจัดสรร
ทำเลที่ได้รับความสนใจจากผู้ประกอบการในการเปิดขายโครงการคอนโดยังคงเป็นพื้นที่ตามแนวเส้นทางรถไฟฟ้าที่กำลังก่อสร้างและพื้นที่ตามแนวเส้นทางรถไฟฟ้า รถไฟใต้ดินนอกพื้นที่ศูนย์กลางธุรกิจ เพราะผู้ประกอบการยังคงต้องการขายคอนโดในราคาเริ่มต้นที่ไม่เกิน 3 ล้านบาทต่อยูนิตมากกว่าขายคอนโดราคาสูงในพื้นที่เมืองชั้นใน
ยกเว้นผู้ประกอบการบางรายที่มีศักยภาพและมีชื่อเสียงในการพัฒนาโครงการระดับหรู พื้นที่ที่ได้รับความสนใจในปีที่แล้ว เช่น ตามแนวเส้นทางรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยายทางทิศเหนือ ยังคงเป็นทำเลยอดนิยมต่อไปในปีนี้ รวมไปถึงพื้นที่ตามแนวเส้นทางรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน และเส้นทางที่จะเริ่มก่อสร้างในปีนี้เช่นกัน เพราะคอนโดยังจำเป็นต้องอยู่ไม่ไกลจากสถานีรถไฟฟ้าทุกรูปแบบจึงจะได้รับความสนใจ ส่วนตลาดบ้านจัดสรรนั้นพื้นที่กรุงเทพฯ รอบนอกและในจังหวัดปริมณฑลโดยเฉพาะพื้นที่ตามแนวเส้นทางถนนที่สามารถเดินทางเข้ากรุงเทพฯ สะดวกยังคงเป็นทำเลที่ผู้ประกอบการให้ความสนใจ
แม้ว่าในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมาราคาที่ดินจะปรับเพิ่มขึ้นมามากกว่าในอดีตก็ตามส่งผลให้ราคาบ้านจัดสรรในทำเลเหล่านี้มีราคาขายสูงขึ้นต่อเนื่องเช่นกัน
ภาพรวมตลาดที่อยู่อาศัย ปี 2561 ยังคงมีการขยายตัวที่ไม่ได้แตกต่างจากปีที่แล้วเท่าใดนัก จำนวนของที่เปิดขายใหม่ทั้งบ้านจัดสรรและคอนโดจะยังคงไม่ได้แตกต่างจากปีก่อนหน้านี้ แต่ถ้าภาวะเศรษฐกิจของประเทศไทยขยายตัวต่อเนื่องจนถึงช่วงไตรมาสที่ 2–3 เชื่อว่าผู้ประกอบการอาจมีการเร่งการเปิดขายโครงการใหม่มากขึ้น
ด้านกำลังซื้ออาจดีขึ้นกว่าปีที่แล้ว แต่ก็ยังต้องขึ้นกับความเชื่อมั่นของคนไทยที่มีต่อภาวะเศรษฐกิจของประเทศในระยะยาวแต่ผู้ประกอบการบางรายมีช่องทางและวิธีการขายของตนเองที่สามารถสร้างอัตราการขายได้สูงในช่วงแรกๆ ที่เปิดขายรวมไปถึงกำลังซื้อชาวต่างชาติที่จะเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของตลาดอสังหาฯในประเทศไทย โดยเฉพาะตลาดคอนโดในกรุงเทพฯ และเมืองท่องเที่ยวยอดนิยมต่าง ๆ กำลังซื้อจากคนจีนจะมากขึ้นกว่าที่ผ่านมาแน่นอน ทั้งจากการขยายตลาดของผู้ประกอบการเองและความต้องการซื้อของคนจีนที่เริ่มมากขึ้นต่อเนื่อง
ตลาดคอนโดจะยังคงขยายตัวต่อเนื่องต่อไปในอนาคตตามการขยายตัวของเส้นทางรถไฟฟ้า ส่วนตลาดบ้านจัดสรรจะออกไปสู่จังหวัดปริมณฑลมากกว่าในกรุงเทพฯ แบบที่เป็นมาต่อเนื่องในช่วงหลายปีที่ผ่านมา
