The Bangkok Insight

โอกาสทอง ‘ออร์แกนิค’ ไทย ติดอาวุธแข่งตลาดโลก ชิงเค้ก 3.55 ล้านล้าน

กระทรวงพาณิชย์ โดยกรมการค้าภายใน จับมือ บริษัท นูเรมเบิร์ก เมสเซ่ จำกัด ประเทศเยอรมนี จัดงานแฟร์ออร์แกนิคสากล เผยวิสัยทัศน์ผลักดันสินค้าไทยสู่ประตูการค้าระดับโลก ชิงตลาดเกษตรอินทรีย์ทั่วโลก 3.55 ล้านล้านบาท

นายวิชัย โภชนกิจ อธิบดีกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ 2
วิชัย โภชนกิจ

นายวิชัย โภชนกิจ อธิบดีกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ปัจจุบันผู้บริโภคทั่วโลกให้ความสำคัญและตระหนักเรื่องการดูแลรักษาสุขภาพมากขึ้น โดยเฉพาะเทรนด์การเลือกบริโภคสิ่งที่มีประโยชน์ ปราศจากสารเคมี และสารพิษตกค้าง หรือออร์แกนิคไลฟ์สไตล์ของคนยุคใหม่ที่กำลังปลุกกระแสอยู่ในขณะนี้ จึงส่งผลให้มูลค่าตลาดเกษตรอินทรีย์ทั่วโลกปรับตัวสูงขึ้นถึง 104,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือราว 3.55 ล้านล้านบาท เติบโตปีละ 20%

สำหรับตลาดเกษตรอินทรีย์ที่สำคัญของโลก ได้แก่ สหรัฐอเมริกา แคนาดา ยุโรป จีน ออสเตรเลีย นอกจากนี้ยังพบว่าตลาดอาเซียนมีอัตราการเติบโตเฉลี่ย 10% ต่อปี ได้แก่ สิงคโปร์ มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ และไทย

จากความต้องการสินค้าเกษตรอินทรีย์ทั่วโลกเพิ่มสูงขึ้นส่งผลให้ประเทศไทยมีมูลค่าตลาดเกษตรอินทรีย์เพิ่มขึ้นตามมาราว 3,000 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นตลาดภายในประเทศ 900 ล้านบาท และตลาดต่างประเทศ 2,100 ล้านบาท ซึ่งมูลค่าการส่งออกคิดเป็น 0.06% ของมูลค่าตลาดโลก โดยมีอัตราการเติบโตในประเทศ 10% ต่อปี ทำให้ประเทศไทยมีโอกาสขยายตลาดอีกมาก

Organic Veg

ทั้งนี้กรมการค้าภายใน มีนโยบายการส่งเสริมและพัฒนาตลาดสินค้าอินทรีย์ เพื่อผลักดันประเทศไทยให้เป็นผู้นำด้านการผลิต การค้า และการบริโภคสินค้าอินทรีย์ในภูมิภาคอาเซียน โดยในปี 2562 นี้ ได้ร่วมมือกับบริษัท นูเรมเบิร์ก เมสเซ่ จำกัด ประเทศเยอรมนี จัดงาน BIOFACH Southeast Asia 2019 และ Natural Expo Southeast Asia 2019 งานแสดงและจำหน่ายสินค้าอินทรีย์และสินค้าธรรมชาติที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เป็นปีที่ 2 ภายใต้แนวคิด “Organic Gateway to Southeast Asia” ระหว่างวันที่ 11 – 14 ก.ค. 2562 ที่อิมแพ็ค เมืองทองธานี

การจัดงานดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง เพื่อผลักดันออร์แกนิคไทยสู่ประตูการค้าโลก และมุ่งหวังในการเป็นศูนย์กลางการเชื่อมโยงและพัฒนาเกษตรอินทรีย์ในอาเซียน โดยเชิญผู้ประกอบการอินทรีย์ของประเทศในภูมิภาค เข้าร่วมการประชุม และการเจรจาธุรกิจกับผู้ประกอบการอินทรีย์ชาวไทย รวมทั้งออกบูธแสดงและจำหน่ายสินค้าจากกลุ่มอาเซียน โดยตั้งเป้าว่าจะมีผู้เข้าชมงานตลอด 4 วัน ไม่น้อยกว่า 50,000 คน คาดว่าจะสร้างมูลค่าการจำหน่ายสินค้าได้ไม่ต่ำกว่า 72 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 97% และเปิดโอกาสทางการค้าและการส่งออกสินค้าเกษตรอินทรีย์ไปตลาดในภูมิภาคและทั่วโลกได้อีกมาก

organic retailer

“ประเทศไทยเป็นฐานการผลิตสินค้าเกษตรอินทรีย์มาตรฐานสากล โดยมีพื้นที่ตั้งทางภูมิศาสตร์ที่เอื้อต่อการส่งออกไปยังตลาดทั่วภูมิภาค ซึ่งประเทศไทย นับเป็นประเทศที่ 7 ของโลกที่ได้มีการลงนามความร่วมมือระหว่างบริษัท นูเรมเบิร์ก เมสเซ่ จำกัด ประเทศเยอรมนี สำหรับจัดงานแฟร์ออร์แกนิคระดับโลกฯ ต่อจากประเทศเยอรมนี สหรัฐอเมริกา บราซิล จีน อินเดีย และญี่ปุ่น”นายวิชัยกล่าว

สำหรับการจัดแสดงสินค้า มีจำนวนบูธมากกว่า 400 บูธ ครอบคลุมสินค้าอินทรีย์ทุกกลุ่มเหมาะสมกับทุกเพศทุกวัย ทั้งอาหาร ผลิตภัณฑ์บำรุงผิว เส้นผม และเครื่องสำอาง, ผลิตภัณฑ์สำหรับแม่และเด็ก, ผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพสัตว์เลี้ยง, ภาชนะและบรรจุภัณฑ์, สารสกัดสะเดากำจัดแมลงศัตรูพืช, ปุ๋ยอินทรีย์, สินค้าไบโอออร์แกนิคสำหรับใช้ในบ้านแทนสารเคมี รวมทั้งบริการอินทรีย์ เช่น ร้านอาหาร โรงแรม ร้านสปา และสถานที่ท่องเที่ยวนอกจากนี้ยังมีผู้ประกอบการต่างชาติที่ตอบรับการร่วมออกบูธอีกจำนวน 12 ประเทศ ได้แก่ สหรัฐอเมริกา เยอรมนี ตุรกี อินเดีย จีน กัมพูชา พม่า เวียดนาม มาเลเซีย ลาว อินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์

Avatar photo