Sport

พระรองตลอดศก! ย้อนดูผลงาน ‘เมสซี่’ กับอาร์เจนตินาที่มีแต่ล้มเหลว

ลิโอเนล เมสซี่ กองหน้าซูเปอร์สตาร์ทีมชาติอาร์เจนตินายังคงผิดหวังกับผลงานชาติบ้านเกิดไม่รู้จักจบสิ้น ล่าสุดสวมปลอกแขนกัปตันทีมไม่สามารถแบกทัพ”ฟ้า-ขาว” เข้าชิงดำโคปา อเมริกา ได้ดั่งหวัง

lionelmessi

อาร์เจนติน่า โดนทีเด็ด”เจ้าภาพ” อัดกระเด็นตกรอบรองชนะเลิศโคปา อเมริกา2019 ทำให้ “เมสซี่” ยังคงเป็นราชาไร้บัลลังก์ในนามทีมชาตอต่อไป

“เมสซี่” ประสบความสำเร็จอย่างมากกับบาร์เซโลน่า สโมสรยักษ์ใหญ่ลาลีกา สเปนหลังคว้าแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก 4 ครั้ง, ลา ลีกา สเปน 10 ครั้ง, ฟีฟ่า คลับ เวิล์ค คัพ 3 ครั้ง และ โกปา เดล เรย์ อีก 6 ครั้ง พร้อมกับคว้ารางวัลส่วนตัวอย่างบัลลงดอร์อีก 5 สมัย ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ในชีวิตนักเตะนับตั้งแต่ขึ้นมาเล่นชุดใหญ่กับ “เจ้าบุญทุ่ม” ในปี 2005

อย่างไรก็ตามผลงานในนามทีมชาติอาร์เจนตินากลับสวนทางระดับสโมสร เมื่อเจ้าตัวยังคงเฝ้ารอความสำเร็จมาตลอดหลายปี โดยเมสซี่ประสบความสำเร็จคว้าแชมป์ฟุตบอลโอลิมปิก 2008 ที่ประเทศจีนได้เพียงรายการเดียวที่เหลือล้วนแล้วแต่เป็นพระรองตลอดศกแม้มีโอกาสท้าชิงแชมป์หลายครั้งหลายคราก็ตาม

ปี 2005 เมสซี่มีส่วนร่วมกับทีมชาติเป็นครั้งแรกจากนั้นกลายเป็นขาประจำและได้ลุยศึกใหญ่ครั้งปรกในชีวิตกับฟุตบอลโลก 2006 ซึ่งแม้จะทำสถิติเป็นผู้เล่นอายุน้อยที่สุดที่ทำประตูได้ในฟุตบอลโลกให้อาร์เจนติน่า แต่สุดท้าย ฟ้า-ขาว” จอดป้ายเพียงแค่รอบยก่อนรองชนะเลิศหลังแพ้จุดโทษเยอรมัน 2-4

ปี 2007 เมสซี่มีโอกาสสัมผัสบรรยากาศนัดชิงชนะเลิศเป็นครั้งแรกในศึกโคปา 2007 ซึ่งเจ้าตัวทำผลงานยอดเยี่ยมตลอดตั้งแต่นัดแรกโดยยิงสองประตูในเกมชนะ เปรู และ เม็กซิโก ช่วยทีมเข้าชิงแชมป์กับบราซิล แต่สุดท้ายพ่ายไปแบบหมดรูป 0-3 ได้เพียงรองแชมป์มาเชยชม

ปี 2010 เมสซี่ กลายเป็นซูเปอร์สตาร์อย่างเต็มตัวทำให้ถูกคาดหวังเพิ่มมากขึ้น ซึ่งทัวร์นาเมนต์ฟุตบอลโลก2010 แม้จะได้ผนึกกำลังกับ ตำนานอย่าง ดิเอโก มาราโดน่า ที่ผันตัวมาคุมทีมชาติ แต่กลับมีผลงานไม่สู้ดีแพ้เยอรมันแบบหมดรูป 0-4 ในรอบก่อนรองชนะเลิศ

ปี 2011 ถือเป็นปีที่ย่ำแย่ที่สุดของเมสซี่ในนามทีมชาติเมื่อเขาถูกคาดหวังมากขึ้นในศึกโคปา อเมริกา 2011 แต่เขากลับตีนบอดยิงประตูไม่ได้เลย อีกทั้งผลงานโดยรวมก็ไม่ดีจนถูกแฟนบอลโห่ไล่หลังจบเกมแพ้จุดโทษ อุรุกวัย 4-5 ในรอบก่อนรองชนะเลิศ

ปี 2014 เมสซี่ รับบทบาทกัปตันทีมเป็นครั้งแรกในการพาทีมลุยศึกฟุตบอลโลก 2014 ซึ่งเขาโชว์ฟอร์มยอดเยี่ยมยิงประตูทุกเกมในรอบแบ่งกลุ่มทั้ง บอสเนีย, อิหร่าน และ ไนจีเรีย จนพาทีมผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศแต่สุดท้ายยังเจอฝันร้ายหลอกหลอนเมื่อโดน มาริโอ โกเมซ ยิงประตูชัยในช่วงต่อเวลาพิเศษทำให้เมสซี่และอาร์เจนติน่าเป็นแค่พระรองอีกคำรบ

ปี 2015 เมสซี่ หวังแก้ตัวประสบความสำเร็จในนามทีมชาติเสียทีเมื่อได้เข้าชิงโคปา อเมริกากับ ชิลี ซึ่งแน่นอนว่าอาร์เจนไตน์เหนือกว่าหลายขุมแต่สุดท้ายไร้วาสนาพ่ายในกาดวลจุดโทษตัดสิน

ปี 2016 เมสซี่เจอฝันร้ายต่อเนื่องเมื่อเขาเป็นคนซัดจุดโทษพลาดจนทีมแพ้ ชิลี 2-4 ในการดวลจุดโทษตัดสินหาแชมป์โคปา อเมริกา และเป็นอีกครั้งที่เขาอกหักจากโทรฟี่แต่คราวนี้มีคราบน้ำตาผสมจนเป็นข่าวดังไปทั่วโลกและเจ้าตัวประกาศอำลาทีมชาติทันทีด้วยวัยเพียง 29 ปี

ปี 2018 เมสซี่หวนกลับมารับใช้ชาติอีกครั้งในการพาทีมลุยศึกฟุตบอลโลกที่รัสเซีย ซึางแน่นอนเขากลับมาพร้อมความหวังของคนทั้งประเทศแต่สุดท้ายทั้งตัวเขาและทัพ “ฟ้า-ขาว”ทำผลงานแย่ผ่านรอบแรกแบบกระเสือกกระสนก่อนมาโดนฝรั่งเศสเขี่ยตกรอบ 16 ทีมสุดท้ายด้วยสกอร์ 3-4 ซึ่งเมสซี่ประกาศเว้นวรรคทีมชาติที่ไม่ใช่การประกาศเลิกเล่นทีมชาติ

ปี 2019 เมสซี่กลับมารับใช้ชาติเพื่อพิสูจน์ตัวเองอีกครั้งกับการพาทีมลุยศึกโคปา อเมริกา ที่บราซิลสุดท้ายผลงานทีมไม่ต่างจากฟุตบอลโลกปีล่าสุดเข้ารอบแบบกระท่อนกระแท่นจนมาโดนบราซิลอัดร่วงรอบรองชนะเลิศ ซึ่งครั้งนี้แม้จะผิดหวังแต่เจ้าตัวยืนยันยังไม่หันหลังให้ทีมชาติเป็นคำรบสองขอสู้ต่อเพื่อโทรฟี่แชมป์

“ถ้าผมจะสามารถช่วยทีมในทางไหนได้บ้าง ผมก็พร้อมที่จะทำอย่างนั้นต่อไป ผมรู้สึกดีมากๆ กับทีมชุดนี้ นี่เป็นรุ่นที่ดีและมีพรสวรรค์สูง พวกเขาแสดงให้เห็นแล้วว่าพวกเขารักทีมชาติมากแค่ไหน พวกเขามีอนาคตที่สดใส และมีรากฐานที่ยอดเยี่ยม พวกเขาก็แค่ต้องการเวลาเท่านั้น”

ปัจจุบันเมสซี่ ในวัย 32 ปีเหลือความหวังในการลบคำครหา “ราชาไร้บัลลังก์” กับชาติบ้านเกิดในศึกโคปา อเมริกา 2020 ที่อาร์เจนตินาเป็นเจ้าภาพร่วมกับโคลอมเบีย ซึ่งหากยังชอกช้ำอีกเขาคงต้องจำใจปิดฉากทีมชาติแบบไร้แชมป์

แม้จะเหลือฟุตบอลโลก 2022 ให้ไล่ล่าความสำเร็จแต่ถึงตอนนั้นเจ้าตัวมีอายุ 35 ปีเข้าไปแล้วไม่รู้ว่าสังขารจะยังไหวอยู่หรือเปล่า

Avatar photo