ตลาดหุ้นเอเชียเช้าวันนี้ (3 ก.ค.) ปรับตัวลดลง ท่ามกลางความกังวลต่อความขัดแย้งทางการค้า ระหว่างสหรัฐ กับสหภาพยุโรป (อียู) บดบังความรู้สึกด้านบวกที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ถึงความเป็นไปได้ที่จีน กับสหรัฐ จะสามารถบรรลุข้อตกลงทางการค้าได้
ดัชนีนิกเคอิ ตลาดหลักทรัพย์โตเกียว ของญี่ปุ่น เคลื่อนไหวล่าสุดปรับลงมา 145.54 จุด หรือ 0.67% มาอยู่ที่ 21,608.73 จุด ดัชนีฮั่งเส็ง ตลาดฮ่องกง ลดลง 55.85 จุด หรือ 0.19% ที่ 28,819.71 จุด ดัชนีคอมโพสิต เซี่ยงไฮ้ ของจีน ปรับลงมา 29.05 จุด หรือ 0.95% ที่ 3,014.89 จุด และดัชนีสเตรทไทมส์ สิงคโปร์ ลดลง 15.70 จุด หรือ 0.47% ที่ 3,355.10 จุด
ปัจจัยเดียวกันนี้ ยังเป็นแรงกดดันสร้างความผันผวนอย่างมากให้กับการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์สหรัฐ โดยดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์เมื่อคืนนี้ (2 ก.ค.) ปิดที่ 26,786.68 จุด เพิ่มขึ้น 69.25 จุด หรือ 0.26% ดัชนีแนสแด็ก ปิดที่ 8,109.09 จุด เพิ่มขึ้น 17.93 จุด หรือ 0.22% และดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 2,973.01 จุด เพิ่มขึ้น 8.68 จุด หรือ 0.29%
ความกังวลในเรื่องการการขยายตัวของเศรษฐกิจดลก ยังสร้างแรงกดดันต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุน ซึ่งล่าสุด เกาหลีใต้ ซึ่งเศรษฐกิจพึ่งพาการค้าอย่างมาก ปรับลดคาดการณ์การเติบโตทางเศรษฐกิจ และเป้าหมายการส่งออก เพียงวันเดียวหลังจากที่ข้อมูลการผลิตทั่วโลกแสดงให้เห็นถึงภาวะซบเซา
ดัชนีคอมโพสิตเซี่ยงไฮ้ มีแนวโน้มขาลงมากสุด จากการที่ธนาคารกลางออกมาระงับความคาดหวังของนักลงทุน ในเรื่องการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในเร็ววันนี้
ทางด้านราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส อินเตอร์มีเดียท กำหนดส่งมอบเดือนสิงหาคม ที่ตลาดสหรัฐเมื่อคืนนี้ ดิ่งลงมา 2.84 ดอลลาร์ หรือ 4.8% ปิดที่ 56.25 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล และราคาน้ำมันดิบเบรนท์ ทะเลเหนือ กำหนดส่งมอบเดือนกันยายน ร่วงลง 2.66 ดอลลาร์ หรือ 4.1% ปิดที่ 62.40 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ท่ามกลางความวิตกถึงภาวะเศรษฐกิจโลกที่ซบเซาลง จะส่งผลต่อความต้ิองการน้ำมัน
ส่วนราคาทองคำตลาดโคเม็กซ์ พุ่งขึ้นมาถึง 18.7 ดอลลาร์ หรือ 1.35% มาอยู่ที่ 1,408 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แรงหนุนจากการเข้าช้อนซื้อเก็งกำไร และเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลง
