ข้อมูลของทางการจังหวัดสีหนุวิลล์ กัมพูชา แสดงให้เห็นนักลงทุนจีนเป็นเจ้าของธุรกิจมากกว่า 90% ในพื้นที่ ไล่ตั้งแต่โรงแรม กาสิโน ร้านอาหาร ไปจนถึง ร้านนวด
ชวน นริน ผู้บัญชาการตำรวจจังหวัดสีหนุวิลล์ กล่าวระหว่างเข้าร่วมประชุมในเรื่องการทำงานอย่างยั่งยืน และความมั่นคงว่า ทางจังหวัดได้รับเม็ดเงินลงทุนเป็นจำนวนมากจากนักลงทุนต่างชาติ โดยเฉพาะ จีน
ช่วงไม่กี่ปีที่ผ่าน สีหนุวิลล์เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วในเกือบจะทุกด้าน อาทิ โรงแรม เกสต์เฮาส์ กาสิโน ร้านอาหาร และธุรกิจอื่นๆ
ข้อมูลจากนริน ยังแสดงให้เห็นว่า ปัจจุบัน จังหวัดสีหนุวิลล์ มีโรงแรม และเกสต์เฮาส์จำนวน 156 แห่ง ซึ่ง 150 แห่งในจำนวนนี้เป็นของนักลงทุนจีน และมีกาสิโน 62 แห่ง ซึ่ง 48 แห่งเป็นการลงทุนของชาวจีน
เขาบอกด้วยว่า ชาวจีนยังเป็นเจ้าของคลับคาราโอเกะ 41 แห่ง และร้านนวดอีก 46 ร้าน ส่วนร้านอาหารในจังหวัดที่มีอยู่ทั้งหมด 436 ร้านนั้น 95% ในจำนวนนี้บริหารจัดการด้วยชาวจีน
ทางด้าน เธือน สีนาน ประธานสมาคมท่องเที่ยวแปซิฟิคเอเชีย แสดงความว่า ไม่ควรมีตลาดใด ที่ปล่อยให้มีนักลงทุนจากชาติเดียว เข้าลงทุนมากกว่าครึ่งหนึ่ง
“ผมเชื่อว่า จะเป็นเรื่องดี ถ้าหากการลงทุนมาจากหลายๆ ประเทศ ไม่ควรมีนักลงทุนจากประเทศเดียวกันเกินกว่า 50% ในตลาดเดียว เพราะจะทำให้เสียสมดุลของการพัฒนา และจะทำให้เกิดผลในด้านลบมากกว่าด้านบวก”
สีนาน บอกด้วยว่า การลงทุนที่เพิ่มขึ้น และการทะลักเข้ามาของชาวจีนในจังหวัดสีหนุวิลล์ จะทำให้กัมพูชาเกิดปัยหาตามมา อาทิ การสูญเสียอัตลักษณ์ของชาติ โอกาสในการจ้างงานสำหรับคนท้องถิ่น กระแสเงินสด และสิ่งแวดล้อม นอกเหนือจากเรื่องความมั่นคงทางสังคม
ที่มา: The Phnom Penh Post
